FUHRER WIRE AND CABLE
พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ทางด้านเทคโนโลยีการผลิตสายไฟฟ้า
FUHRER WIRE AND CABLE
พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ทางด้านเทคโนโลยีการผลิตสายไฟฟ้า
FUHRER WIRE AND CABLE
พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ทางด้านเทคโนโลยีการผลิตสายไฟฟ้า
Previous
Next

ผลิตภัณฑ์

ผลิต - จัดจำหน่ายสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ - สูง บัสบาร์ อาร์เมอเทป

พัฒนาและปรับปรุงองค์กรสู่มาตราฐานสากลอย่างต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์ให้แก่ฐานลูกค้าทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ เพิ่มศักยภาพและประสิทธิขององค์กร

ข่าวสาร และบทความ

สายไฟ XLPE คืออะไร

การเลือกใช้สายไฟฟ้าที่เหมาะสมกับงานคือหัวใจสำคัญของความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบทั้งหมด หนึ่งในชนิดของสายไฟที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบันคือ สาย XLPE ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติที่เหนือกว่าสายไฟแบบดั้งเดิมหลายประการ วันนี้ Fuhrer ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจในอุตสาหกรรมมากว่า 27 ปี จะพาไปทำความรู้จักกับ สาย XLPE ให้ลึกซึ้ง ตั้งแต่ความหมาย คุณสมบัติเด่น ไปจนถึงการเลือกใช้งานให้ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด

สาย XLPE คืออะไร

สาย XLPE คือสายไฟฟ้าที่ใช้ฉนวนซึ่งทำมาจากพอลีเอทิลีน (Polyethylene) ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า “Cross-linked” หรือ “Vulcanized” ทำให้โครงสร้างโมเลกุลของพอลีเอทิลีนเกิดการเชื่อมโยงกันเป็นร่างแห (3D Network) ผลลัพธ์ที่ได้คือฉนวนเปลี่ยนจาก Polyethtlene เป็น Cross-linked Polyethtlene ทำให้ฉนวนมีคุณสมบัติทางกายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความทนทานต่ออุณหภูมิและความแข็งแรงเชิงกล

ทำไมคนถึงเรียกปนกับสาย CV?

เป็นเรื่องปกติในวงการช่างและวิศวกรที่จะได้ยินคนเรียกสาย XLPE สลับกับ “สาย CV” ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนได้ง่าย ความจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้มีความหมายที่เกี่ยวข้องกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว

  • สาย CV เป็นชื่อเรียกตามมาตรฐานญี่ปุ่น (JIS) หมายถึงสายไฟฟ้าที่ใช้ ฉนวน XLPE และมี เปลือกนอกเป็น PVC (Polyvinyl Chloride) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในงานติดตั้งทั่วไป
  • สาย XLPE ตามนิยามที่ถูกต้องกว่า จะหมายถึงสายไฟฟ้าที่ใช้ ฉนวน XLPE และมี เปลือกนอกเป็น PE (Polyethylene) ซึ่งมักใช้ในงานที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารสูงเป็นพิเศษ เช่น งานเดินสายใต้ดิน หรือในบริเวณที่มีความชื้นสูง

ดังนั้น แม้คนส่วนใหญ่จะเรียกเหมารวมว่าสาย CV แต่การทำความเข้าใจว่า “XLPE” คือชื่อของชนิดฉนวน จะช่วยให้สามารถเลือกชนิดของเปลือกนอก (Sheath) ให้เหมาะสมกับหน้างานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

คุณสมบัติและลักษณะเด่นของสาย XLPE ที่ช่างไฟควรรู้

การที่สาย XLPE ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโครงการขนาดใหญ่และงานที่ต้องการความเชื่อถือสูง มาจากคุณสมบัติเด่น 4 ประการที่แตกต่างจากสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนชนิดอื่นอย่างชัดเจน

ทนความร้อนสูงกว่าสายทั่วไป

จุดเด่นที่สุดของ ฉนวน XLPE คือความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิที่สูงกว่าฉนวน PVC อย่างมาก โดย สาย XLPE สามารถทนอุณหภูมิตัวนำได้สูงสุดถึง 90°C ในสภาวะใช้งานปกติ และทนอุณหภูมิขณะเกิดการลัดวงจรได้สูงถึง 250°C (ในระยะเวลาสั้นๆ) ซึ่งสูงกว่าสาย PVC ที่ทนได้เพียง 70°C และ 160°C ตามลำดับ คุณสมบัตินี้ทำให้ สาย XLPE สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าสาย PVC ที่มีขนาดตัวนำเท่ากัน จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบที่ต้องการประสิทธิภาพการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าสูงสุด

ความแข็งแรงเชิงกลและทนทานต่อสารเคมี

ด้วยโครงสร้างโมเลกุลแบบร่างแห ทำให้ฉนวน XLPE มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก การขูดขีด และการเสียดสีได้ดีกว่า PVC อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้นได้ดีเยี่ยม ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ลดความถี่และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว

คุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม

ฉนวน XLPE มีค่าความเป็นฉนวนทางไฟฟ้า (Dielectric Strength) ที่สูงมาก และมีค่าการสูญเสียในฉนวน (Dielectric Loss) ต่ำ ซึ่งหมายความว่ามันสามารถป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียรและปลอดภัยสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าแรงดันสูง

น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย

เมื่อเทียบกับสายไฟฟ้าประเภทอื่นที่มีพิกัดการทนกระแสเท่ากันสาย XLPE มักจะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า เนื่องจากคุณสมบัติการทนความร้อนที่สูงกว่า ทำให้สามารถใช้ตัวนำขนาดเล็กลงได้ ข้อได้เปรียบนี้ช่วยให้การขนส่งและการติดตั้งทำได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการเดินสายในที่แคบหรือบนรางเคเบิลที่มีพื้นที่จำกัด

ประเภทของสาย XLPE

ประเภทของสาย XLPE ที่นิยมใช้งาน

สาย XLPE สามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะของตัวนำ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการติดตั้งที่แตกต่างกัน และยังแบ่งตามพิกัดแรงดันไฟฟ้าตามมาตรฐานสากลอีกด้วย

สายแบบแข็ง (Solid Conductor)

เป็นสาย XLPE ที่มีตัวนำเป็นลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเดี่ยว มีลักษณะแข็ง ไม่สามารถดัดโค้งงอได้มากนัก เหมาะสำหรับงานติดตั้งแบบถาวร เช่น การเดินสายในท่อร้อยสายฝังดินหรือฝังในผนังคอนกรีต ที่ไม่ต้องการการเคลื่อนย้ายหรือดัดสายบ่อยครั้ง

สายแบบยืดหยุ่น (Flexible Conductor / Stranded Conductor)

เป็นสาย XLPE ที่มีตัวนำภายในประกอบด้วยลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเล็กๆ จำนวนมากตีเกลียวรวมกัน ทำให้สายมีความอ่อนตัวและยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งงอได้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องเดินสายในพื้นที่โค้งงอ หรือติดตั้งในรางเคเบิล (Cable Tray/Ladder) และงานที่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายในอนาคต

สาย XLPE เหมาะกับงานประเภทไหนบ้าง?

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นรอบด้าน ทำให้สาย XLPE เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานและความเชื่อถือได้สูง โดยมีตัวอย่างการใช้งานหลักดังนี้

งานเดินสายไฟฟ้าใต้ดิน (Underground Cable)

คุณสมบัติการทนความชื้น, ทนต่อแรงกดทับ และความแข็งแรงเชิงกลของสาย XLPE ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานร้อยท่อฝังดินหรือฝังดินโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายทางกายภาพและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานเดินสายในอาคารขนาดใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรม

ในอาคารสูง, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก ความสามารถในการนำกระแสสูงของสาย XLPE ช่วยให้สามารถรองรับโหลดไฟฟ้าหนักๆ ได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากปัญหาความร้อนสะสมในสายไฟซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอัคคีภัย

ระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Power Lines)

สำหรับโครงการระบบส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ หรือสถานีไฟฟ้าย่อย ความเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยมและค่าการสูญเสียทางไฟฟ้าที่ต่ำของสาย XLPE มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาเสถียรภาพของระบบและลดการสูญเสียพลังงานในระหว่างการส่งจ่ายไฟฟ้าในระยะทางไกล

เปรียบเทียบชัดๆ สาย XLPE ต่างจากสาย PVC อย่างไร?

เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างระหว่างฉนวน XLPE และฉนวน PVC ที่เป็นที่นิยมในงานทั่วไปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถสรุปเปรียบเทียบคุณสมบัติในด้านต่างๆ ได้ดังตารางต่อไปนี้

คุณสมบัติสาย XLPEสาย PVC
การทนความร้อนสูงมาก (ทนอุณหภูมิตัวนำได้ 90°C)ปานกลาง (ทนอุณหภูมิตัวนำได้ 70°C)
ความทนทานเชิงกลดีเยี่ยม ทนต่อการขีดข่วนและแรงกระแทกดี ทนทานต่อการใช้งานทั่วไป
อายุการใช้งานยาวนานมาก (มากกว่า 20-30 ปี)ยาวนาน (ประมาณ 15-20 ปี)
ราคาสูงกว่าประหยัดกว่า
การนำกระแสนำกระแสได้สูงกว่าในขนาดตัวนำเดียวกันนำกระแสได้ตามมาตรฐาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสาย XLPE

ฉนวน XLPE คืออะไร?

ฉนวน XLPE คือ ฉนวนที่ทำจากพอลีเอทิลีน (PE) ที่ผ่านกระบวนการ Cross-linking เพื่อเชื่อมโยงโครงสร้างโมเลกุลให้แข็งแรงขึ้น ทำให้มีคุณสมบัติทนความร้อน, ทนทานต่อสารเคมี และมีความแข็งแรงเชิงกลสูงกว่าฉนวนพลาสติกเทอร์โมพลาสติกทั่วไปอย่าง PVC อย่างมีนัยสำคัญ

สาย XLPE ทนกระแสได้เท่าไหร่?

ความสามารถในการทนกระแสของ สาย XLPE ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ ขนาดของตัวนำไฟฟ้า (พื้นที่หน้าตัด) และ ลักษณะการติดตั้ง (เช่น เดินในอากาศ, ในท่อร้อยสาย, หรือฝังดิน) ซึ่งมีผลต่อการระบายความร้อน โดยสามารถอ้างอิงพิกัดกระแสได้จากตารางมาตรฐานของผู้ผลิตหรือมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ยกตัวอย่างเช่น สาย XLPE ขนาด 50 ตร.มม. อาจทนกระแสได้สูงกว่า 200 แอมแปร์ เมื่อติดตั้งในอากาศ

สาย XLPE กับสาย CV ต่างกันอย่างไร?

สรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดคือ XLPE เป็น “ชื่อของชนิดฉนวน” ในขณะที่ CV เป็น “ชื่อเรียกของชนิดสายไฟ” ตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงสายที่มี ฉนวนเป็น XLPE และ เปลือกนอกเป็น PVC ดังนั้น สาย XLPE ทุกเส้นไม่ได้เป็นสาย CV เสมอไป เพราะอาจมีเปลือกนอกเป็นวัสดุชนิดอื่น เช่น PE ก็ได้

สรุปเกี่ยวกับสาย XLPE

สรุปบทความ

สาย XLPE ถือเป็นเทคโนโลยีสายไฟฟ้าขั้นสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความทนทานในระยะยาว แม้จะมีราคาสูงกว่าสาย PVC แต่เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการนำกระแสที่สูงกว่าและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับทุกโครงการ

สำหรับผู้ประกอบการ, วิศวกร, หรือผู้รับเหมาที่กำลังมองหาสาย XLPE และสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล Fuhrer Wire & Cable พร้อมเป็นผู้ช่วยและที่ปรึกษา เราคือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าชั้นนำของไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำของประเทศมากมาย อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสำหรับโครงการของคุณ

สายไฟ CV คืออะไร

ในโลกของระบบไฟฟ้า การเลือกใช้สายไฟที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยและเสถียรภาพ โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่และภาคอุตสาหกรรม หนึ่งในสายไฟที่ได้รับความนิยมและไว้วางใจสูงสุดคือ สาย CV ซึ่งเป็นสายไฟฟ้าแรงดันต่ำที่มีประสิทธิภาพสูง วันนี้ Fuhrer ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพระดับสากล จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับสายไฟ CV ตั้งแต่โครงสร้าง คุณสมบัติ ประเภท ไปจนถึงการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ

สายไฟ CV คืออะไร

สายไฟ CV มีชื่อเรียกเต็มคือ “Cross-linked Polyethylene Insulated, PVC Sheathed Power Cable” เป็นสายไฟฟ้าทองแดงหุ้มฉนวน XLPE และมีเปลือกนอกเป็น PVC จัดเป็นสายไฟฟ้าประเภทแรงดันต่ำ (Low Voltage) ที่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ 0.6/1 kV หรือ 600/1000 โวลต์ ด้วยคุณสมบัติเด่นของฉนวน XLPE ที่ทนความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส ทำให้สาย CV สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าสายไฟทั่วไปที่มีขนาดตัวนำเท่ากัน จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการติดตั้งที่ต้องการความทนทานและประสิทธิภาพในการจ่ายไฟสูง

โครงสร้างและคุณสมบัติเด่นของสายไฟ CV

ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าของสาย CV มาจากโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเสถียรภาพในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า

ตัวนำไฟฟ้า (Conductor) 

ส่วนแกนกลางของสายไฟ CV ทำจากทองแดงบริสุทธิ์ที่ผ่านกระบวนการอบอ่อน (Annealed Copper) ทำให้มีความอ่อนตัวสูงและนำไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม มีทั้งรูปแบบของตัวนำเส้นเดี่ยว (Solid) และแบบตีเกลียว (Stranded) ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการติดตั้ง ทำให้สามารถดัดโค้งได้ง่ายในพื้นที่จำกัด โครงสร้างตัวนำนี้เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 2143-2546 ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย

ฉนวน (Insulation) 

นี่คือจุดเด่นที่สุดของสาย CV ฉนวนทำจากวัสดุ XLPE (Cross-linked Polyethylene) ซึ่งเป็นพลาสติกโพลีเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการทำให้มีโครงสร้างแบบร่างแห ทนทานต่อความร้อนได้สูงถึง 90 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าฉนวน PVC ในสายไฟทั่วไปที่ทนได้เพียง 70 องศาเซลเซียส คุณสมบัตินี้ส่งผลให้สายไฟ CV สามารถรองรับปริมาณกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น และทนต่อการลัดวงจรชั่วขณะได้ดีเยี่ยม

เปลือกนอก (Sheath) 

ชั้นนอกสุดทำจาก PVC (Polyvinyl Chloride) คุณภาพสูง ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันแกนสายไฟภายในจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น ความชื้น, แสงแดด, การขูดขีด และการกัดกร่อนของสารเคมีบางชนิด ทำให้สาย CV มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับการติดตั้งในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในอาคารหรือการติดตั้งใต้ดิน

สายไฟ CV มีกี่ประเภท?

ในท้องตลาดสายไฟ CV สามารถแบ่งตามลักษณะโครงสร้างและการใช้งานได้หลายรูปแบบ แต่ประเภทที่พบได้บ่อยและเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มวิศวกรและช่างไฟฟ้า มีอยู่ 2 ประเภทหลัก ซึ่งแตกต่างกันที่การมีสายดิน (Ground) รวมอยู่ด้วย

สาย CV (0.6/1 kV-CV) 

เป็นสาย CV มาตรฐานที่อาจมีแกนเดี่ยว (Single Core) หรือหลายแกน (Multi-Core) ก็ได้ โดยจะไม่มีสายดินรวมอยู่ในโครงสร้างเส้นเดียวกัน เหมาะสำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟส ที่มีการเดินสายดินแยก หรือในระบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้สายดินในวงจรนั้นๆ เป็นประเภทที่นิยมใช้ในงานทั่วไปที่ต้องการประสิทธิภาพการจ่ายไฟสูง

สาย CV (0.6/1 kV-CV) 

เป็นสายไฟ CV ที่มีการเพิ่มสายดิน (Ground Conductor) เข้ามาเป็นหนึ่งในแกนของสาย ทำให้การติดตั้งสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในงานที่ต้องต่อเข้ากับอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่มาตรฐานบังคับให้ต้องมีสายดิน เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว การเลือกใช้สาย CV ช่วยลดขั้นตอนการเดินสายดินแยก ทำให้การติดตั้งรวดเร็วและเป็นระเบียบเรียบร้อย

สายไฟ CV เหมาะกับงานประเภทไหน

สายไฟ CV เหมาะกับงานประเภทไหน

ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงและคุณสมบัติการทนความร้อนที่ยอดเยี่ยม ทำให้สายไฟ CV กลายเป็นสายไฟอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับการติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความเชื่อถือได้สูง

การติดตั้งในอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม 

สาย CV เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นสายเมนจ่ายกำลังไฟฟ้าในอาคารขนาดใหญ่, โรงแรม, โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงและต่อเนื่อง ความสามารถในการทนกระแสสูงช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพ รองรับการทำงานของเครื่องจักรหนักได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การติดตั้งแบบร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรง 

เปลือก PVC ที่ทนทานของสายไฟ CV ทำให้สามารถป้องกันความชื้นและแรงกดทับได้ดี จึงนิยมใช้ในงานเดินสายใต้ดิน ทั้งแบบร้อยในท่อ Conduit เพื่อเพิ่มการป้องกัน หรือแม้กระทั่งการฝังลงในดินโดยตรง (Direct Burial) สำหรับการจ่ายไฟฟ้าระหว่างอาคารหรือไปยังจุดที่อยู่ห่างไกล

การติดตั้งบนรางเคเบิล (Cable Tray) 

ในโรงงานอุตสาหกรรมหรืออาคารขนาดใหญ่ มักนิยมเดินสายไฟบนรางเคเบิลที่เปิดโล่งเพื่อการระบายความร้อนที่ดีและการบำรุงรักษาที่ง่ายสาย CV มีความแข็งแรงของโครงสร้างที่สามารถวางบนรางเคเบิลได้โดยไม่เสียหาย และยังคงประสิทธิภาพการจ่ายไฟได้อย่างดีเยี่ยม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสายไฟ CV

สาย CV กับสาย NYY ต่างกันอย่างไร?

เนื่องจากสายทั้งสองชนิดเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินที่ได้รับความนิยม แต่มีความแตกต่างที่สำคัญซึ่งส่งผลต่อการใช้งานโดยตรง สรุปความแตกต่างหลักได้ดังนี้

  • ฉนวน จุดต่างที่สำคัญที่สุดคือชนิดของฉนวน สาย CV ใช้ฉนวน XLPE ซึ่งทนอุณหภูมิได้ 90°C ในขณะที่สาย NYY,NYY-G ใช้ฉนวน PVC ซึ่งทนอุณหภูมิได้เพียง 70°C
  • การทนกระแส จากความแตกต่างของฉนวน ทำให้สาย CV สามารถทนกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าสาย NYY เมื่อมีขนาดตัวนำเท่ากัน ดังนั้นหากต้องการจ่ายไฟในปริมาณเท่ากัน อาจสามารถลดขนาดของสายไฟ CV ลงได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและพื้นที่ในการติดตั้ง

สาย CV ทนกระแสได้เท่าไหร่?

ความสามารถในการทนกระแสของสาย CV ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวนำเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการติดตั้งอีกด้วย เนื่องจากอุณหภูมิโดยรอบและการระบายความร้อนมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแล้ว

  • การติดตั้งในอากาศ จะระบายความร้อนได้ดีที่สุดและทนกระแสได้สูงสุด
  • การติดตั้งในท่อร้อยสาย จะทนกระแสได้ลดลงเล็กน้อย
  • การติดตั้งแบบฝังดินโดยตรง จะทนกระแสได้น้อยที่สุดเนื่องจากระบายความร้อนได้ยาก

ตัวอย่างเช่น สาย CV ขนาด 50 ตร.มม. อาจทนกระแสได้ต่างกันหลายสิบแอมแปร์ระหว่างการติดตั้งในอากาศกับการฝังดิน ดังนั้น การคำนวณที่แม่นยำควรปรึกษาวิศวกรไฟฟ้าและอ้างอิงตารางมาตรฐานจากผู้ผลิต

สายไฟแรงดันต่ำกับแรงดันสูงต่างกันอย่างไร?

การแบ่งประเภทสายไฟตามระดับแรงดัน เป็นการจำแนกพื้นฐานในระบบไฟฟ้า ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้านโครงสร้างและการใช้งาน

  • แรงดันต่ำ (Low Voltage) คือระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไม่เกิน 1,000 โวลต์ (1kV) เป็นระบบที่ใช้กันทั่วไปในอาคาร บ้านพักอาศัย และโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ สายไฟที่ใช้ในกลุ่มนี้คือ สาย CV, NYY, VCT, และสาย THW
  • แรงดันสูง (High Voltage) คือระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันเกิน 1,000 โวลต์ขึ้นไป ใช้สำหรับระบบส่งและจ่ายพลังงานไฟฟ้าในระยะทางไกลๆ จากโรงไฟฟ้าไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยต่างๆ สายไฟแรงสูงจะมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและฉนวนที่หนาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานและอันตราย
สรุปเกี่ยวกับสาย CV

สรุปบทความ

โดยสรุปสาย CV คือสายไฟฟ้าแรงดันต่ำประสิทธิภาพสูงที่โดดเด่นด้วยฉนวน XLPE ทำให้ทนความร้อนและนำกระแสได้ดีกว่าสายไฟฉนวน PVC ทั่วไป ด้วยความแข็งแรงทนทานและความสามารถในการติดตั้งที่หลากหลาย ทั้งในอากาศ บนรางเคเบิล หรือฝังดิน ทำให้สายไฟ CV เป็นตัวเลือกที่วิศวกรและผู้รับเหมาไว้วางใจสำหรับโครงการที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับผู้ประกอบการ วิศวกร หรือเจ้าของโครงการที่กำลังมองหาสายไฟ CV และสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานระดับสากล Fuhrer พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของคุณ เราคือผู้ผลิตที่มีประสบการณ์ยาวนานและได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐชั้นนำ เช่น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่มากมาย ที่มั่นใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเราในโครงการสำคัญเสมอมา

สายไฟ NYY คืออะไร

เมื่อพูดถึงการวางระบบไฟฟ้าสำหรับโครงการที่ต้องการความทนทานและเสถียรภาพสูงสุด ชื่อของสาย NYY,NYY-G มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่วิศวกรและช่างไฟฟ้ามืออาชีพนึกถึงเสมอ ด้วยคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะการนำสาย NYY,NYY-G ใช้เดินฝังดินได้โดยตรง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญ ชื่อ NYY,NYY-G นั้นมาจากมาตรฐาน VDE ของเยอรมนี วันนี้ Fuhrer ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของสายไฟ NYY,NYY-G ชนิดนี้

สายไฟ NYY,NYY-G คืออะไร

สายไฟ NYY,NYY-G คือ สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนและเปลือกนอกด้วย PVC (Polyvinyl Chloride) ชนิดทนทานพิเศษ โดยมีโครงสร้างภายในเป็นตัวนำทองแดง สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ที่ 450/750 โวลต์ และทนอุณหภูมิได้สูงสุด 70 องศาเซลเซียส จุดเด่นที่ทำให้ สาย NYY,NYY-G ได้รับความนิยมอย่างสูงคือโครงสร้างเปลือกสองชั้นที่หนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ ทำให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อม การกดทับ และความชื้นได้ดีเยี่ยม จึงเป็นสายไฟที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานติดตั้งที่ต้องการความทนทานสูง เช่น งานเดินสายใต้ดิน

โครงสร้างและคุณสมบัติเด่นของสาย NYY,NYY-G ที่ควรรู้

ความแข็งแกร่งทนทานของ สาย NYY,NYY-G ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มาจากโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อการใช้งานหนักโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว โครงสร้างของ สายไฟ NYY,NYY-G ประกอบด้วย 4 ส่วนหลักที่ทำให้สายมีความแข็งแรงและปลอดภัยสูงสุด ดังนี้

ตัวนำไฟฟ้า (Conductor) 

หัวใจหลักของการส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า ทำจากทองแดงที่มีความบริสุทธิ์สูงและนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม โดยมีทั้งรูปแบบตัวนำแกนเดี่ยว (Solid) สำหรับสายขนาดเล็กที่ต้องการความแข็งแรงในการติดตั้งแบบถาวร และตัวนำตีเกลียว (Stranded) สำหรับสายขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการดัดโค้งระหว่างการติดตั้ง และทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่า

ฉนวน (Insulation) 

ชั้นป้องกันด่านแรกที่หุ้มตัวนำทองแดงแต่ละแกน ทำจากพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) คุณภาพสูง มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม สามารถทนต่อแรงดันไฟฟ้าตามพิกัดได้โดยไม่เกิดการรั่วไหล ที่สำคัญคือมีคุณสมบัติไม่ลามไฟ (Flame Retardant) ช่วยจำกัดความเสียหายในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยฉนวนจะถูกกำกับด้วยสีที่แตกต่างกันตามมาตรฐาน เพื่อให้ง่ายต่อการระบุเฟส (L), สายนิวทรัล (N), และสายดิน (G) ในระหว่างการติดตั้งสาย NYY,NYY-G ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญด้านความปลอดภัย

เปลือกใน (Inner Sheath) 

ในสาย NYY,NYY-G แบบหลายแกน จะมีเปลือก PVC อีกชั้นหนึ่งอยู่ด้านใน ทำหน้าที่สำคัญสองประการ คือ (1) หุ้มรวบสายไฟที่มีฉนวนหุ้มทุกแกนเข้าไว้ด้วยกันให้เป็นรูปทรงกลมที่สมบูรณ์ ซึ่งช่วยให้การรับแรงกดทับจากภายนอกกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ และ (2) ทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันเชิงกลอีกชั้นหนึ่ง ป้องกันไม่ให้ฉนวนของสายแต่ละแกนได้รับความเสียหายโดยตรง

เปลือกนอก (Outer Sheath) 

เกราะป้องกันชั้นนอกสุดและเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้สายไฟ NYY,NYY-G มีความทนทานเป็นพิเศษ ผลิตจาก PVC เกรดพิเศษที่มีความหนาและเหนียวกว่าสายไฟทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเปลือกสีดำนี้ถูกผสมสารป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV Stabilizer) ทำให้ทนทานต่อแสงแดดโดยตรงโดยไม่เปราะแตกง่ายเมื่อติดตั้งในที่โล่ง นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาให้ทนต่อการขูดขีด, แรงกระแทก, ความชื้น และการกัดกร่อนจากสารเคมีในดิน จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้สาย NYY ใช้เดินฝังดินได้โดยตรง อย่างปลอดภัย

คุณสมบัติที่ทำให้สาย NYY,NYY-G แตกต่าง

จากโครงสร้างดังกล่าว ส่งผลให้สาย NYY,NYY-G มีคุณสมบัติเด่นที่เหนือกว่าสายไฟทั่วไปหลายประการ

  • ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ด้วยเปลือกนอกที่หนาเป็นพิเศษ ทำให้ทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย แสงแดด และฝนได้ดี
  • ทนต่อแรงกระแทกและการกดทับ สามารถรองรับแรงกดทับจากการฝังดินได้โดยตรง ทำให้การเป็น NYY ใช้เดินฝังดินได้โดยตรง เป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุด
  • ป้องกันความชื้นและการกัดกร่อน โครงสร้างเปลือก 2 ชั้นช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือความชื้นซึมเข้าไปถึงตัวนำไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความปลอดภัยสูง เป็นสายไฟฟ้าที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 11 เล่ม 101-2559 ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน
ประเภทของสายไฟ NYY

ประเภทของสายไฟ NYY,NYY-G

เพื่อตอบสนองความต้องการของระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกันสาย NYY,NYY-G ถูกผลิตขึ้นมาหลายประเภท โดยสามารถแบ่งตามจำนวนแกนและการมีสายดิน เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

สาย NYY แบบ 1 แกน

เป็นสายไฟ NYY ที่มีตัวนำไฟฟ้าเพียงแกนเดียว เหมาะสำหรับใช้งานในระบบไฟฟ้า 1 เฟส หรือใช้เป็นสายต่อลงดิน (Ground) ในบางกรณี มักนิยมใช้เดินในท่อร้อยสายไฟเพื่อเพิ่มการป้องกันทางกายภาพ โดยเฉพาะในการติดตั้งในอาคารหรือโรงงาน

สาย NYY แบบมีหลายแกน

เป็นสาย NYY ที่มีตัวนำตั้งแต่ 2 แกนขึ้นไป เหมาะสำหรับระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ระบบ 1 เฟส ที่มีสายนิวทรัล (N) หรือระบบไฟฟ้า 3 เฟส โดยจะไม่มีสายดิน (Ground) รวมอยู่ด้วย เหมาะกับงานที่ระบบมีการเดินสายดินแยกต่างหาก

สาย NYY-G แบบมีหลายแกน มีสายดิน

นี่คือประเภทที่ได้รับความนิยมใช้งานมากที่สุด คำว่า “-G” ย่อมาจาก Ground หมายถึงสาย NYY ประเภทนี้จะมีสายดิน (มักเป็นสีเขียวแถบเหลือง) รวมอยู่ด้วย ทำให้สะดวกและปลอดภัยในการติดตั้งสำหรับระบบไฟฟ้าที่ต้องการการต่อลงดิน เช่น ระบบไฟฟ้า 3 เฟส 4 สาย ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม อาคารขนาดใหญ่ หรือบ้านพักอาศัย

การใช้งานสายไฟ NYY,NYY-G ที่ถูกต้องและปลอดภัย

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ทำให้สาย NYY,NYY-G สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบ ซึ่งการเลือกวิธีการติดตั้งที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรับประกันความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า

  • การเดินสายฝังดินโดยตรง เป็นวิธีการติดตั้งที่นิยมที่สุดสำหรับสายไฟ NYY,NYY-G เนื่องจากคุณสมบัติที่ทนทาน ทำให้สามารถขุดร่องและวางสายลงไปในดินได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องร้อยท่อ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการติดตั้ง
  • การร้อยท่อฝังดินหรือฝังในผนังคอนกรีต สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการกระทบกระเทือนทางกายภาพ เช่น ใต้ถนน หรือพื้นที่ก่อสร้างการร้อยสาย NYY,NYY-G ในท่อโลหะหรือท่อ PVC สำหรับงานไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มชั้นการป้องกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
  • การเดินสายในอากาศ สามารถใช้เดินลอยในอากาศได้ โดยต้องมีการยึดจับสายกับผนังหรือโครงสร้างด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม (Cable Gland หรือ เข็มขัดรัดสาย)
  • การเดินบนรางเคเบิล (Cable Tray) เป็นวิธีการติดตั้งที่พบได้บ่อยในโรงงานอุตสาหกรรมหรืออาคารขนาดใหญ่ ช่วยให้การจัดระเบียบสายไฟทำได้ง่าย และสะดวกต่อการบำรุงรักษาในอนาคต

ข้อควรรู้และข้อควรระวังในการติดตั้งสาย NYY,NYY-G

เพื่อให้การใช้งานสาย NYY,NYY-G เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญดังนี้

  • เลือกขนาดสายไฟให้เหมาะสม ควรเลือกขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ (ตารางมิลลิเมตร) ให้สอดคล้องกับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ต้องใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาสายร้อนเกินไปจนเกิดอันตราย
  • ติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ การติดตั้งระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการฝังดิน ควรดำเนินการโดยช่างไฟฟ้าที่มีความรู้ความชำนาญ
  • ตรวจสอบมาตรฐาน มอก. ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟ NYY,NYY-G นั้นผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 11 เล่ม 101-2553 เพื่อรับประกันคุณภาพ
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ไม่ควรติดตั้งสายในพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนรุนแรงตลอดเวลา หรือบริเวณที่สัมผัสกับสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงโดยไม่มีการป้องกันเพิ่มเติม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสาย NYY,NYY-G

สาย NYY,NYY-G ทนทานแค่ไหน?

สาย NYY ถูกออกแบบมาให้มีความทนทานสูงมาก ด้วยโครงสร้างเปลือก PVC สองชั้น ทำให้ทนต่อแรงกดทับ การขูดขีด สภาพอากาศที่รุนแรง ความชื้น และการกัดกร่อนจากสารเคมีในดินได้เป็นอย่างดี จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายสิบปีหากติดตั้งอย่างถูกวิธี ถือเป็นหนึ่งในสายไฟฟ้าที่ทนทานที่สุดสำหรับการติดตั้งแบบถาวร

สาย NYY ต่างจากสาย VCT อย่างไร?

สาย NYY และสาย VCT แม้จะหุ้มด้วย PVC เหมือนกัน แต่มีโครงสร้างและการใช้งานที่ต่างกันอย่างชัดเจน

  • โครงสร้าง สาย NYY มีเปลือก 2 ชั้นและมีความแข็งแรงทนทานสูง ไม่มีความยืดหยุ่นมากนัก ส่วนสาย VCT มีเปลือกชั้นเดียวและตัวนำเป็นทองแดงฝอยละเอียด ทำให้มีความอ่อนตัวและยืดหยุ่นสูงกว่ามาก
  • การใช้งาน สาย NYY เหมาะสำหรับงานติดตั้งถาวร เช่น การเดินฝังดินหรือยึดติดกับผนัง ส่วนสาย VCT เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ เช่น สายสำหรับเครื่องจักร หรือสายปลั๊กพ่วง

สาย IEC 10 กับ NYY ต่างกันอย่างไร?

โครงสร้างวัสดุเหมือนกันแต่ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เท่ากัน IEC 10 จะกำหนดไว้ 300/500 V ส่วน NYY กำหนดไว้ 450/750 V แตกต่างกันที่ความหนาของฉนวน, เปลือกในและเปลือกนอก

สรุปเกี่ยวกับสาย NYY

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่าสาย NYY,NYY-G คือสายไฟฟ้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในงานวิศวกรรมไฟฟ้า ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำสาย NYY,NYY-G ใช้เดินฝังดินได้โดยตรง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนและต้นทุนในการติดตั้ง การทำความเข้าใจประเภทและวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าของคุณมีความปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

สำหรับผู้ประกอบการหรือวิศวกรที่กำลังมองหาสายไฟ NYY,NYY-G และสายไฟฟ้าคุณภาพสูงประเภทอื่นๆ ที่ได้มาตรฐานสากล Fuhrer พร้อมเป็นคู่ค้าที่เชื่อถือได้ ด้วยประสบการณ์กว่า 3 ทศวรรษ และความไว้วางใจจากโครงการสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีคุณภาพ แต่ยังมาพร้อมกับบริการและความเชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อให้ทุกโครงการของคุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน