หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “สายเมนไฟฟ้า” แต่ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อระบบไฟฟ้าในบ้านหรืออาคาร “สายเมนไฟฟ้า” ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งยวด แต่กลับถูกมองข้ามบ่อยครั้ง วันนี้ Fuhrer (ฟูห์เร่อ) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพสูง ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ จะมาเจาะลึกทุกแง่มุมของสายไฟชนิดนี้ เพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องและมั่นใจใน ความปลอดภัย สูงสุด
สายเมนไฟฟ้าคืออะไร
สายเมนไฟฟ้า (Main Electrical Cable) คือ สายไฟหลักที่ทำหน้าที่รับพลังงานไฟฟ้าจากมิเตอร์ไฟฟ้า (Service Entrance) ซึ่งติดตั้งโดยการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่อส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดเข้ามายังจุดศูนย์กลางของระบบไฟฟ้าภายในอาคาร นั่นคือ ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลัก (Main Distribution Board – MDB) หรือที่เรียกกันติดปากในบ้านพักอาศัยว่า ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต (Consumer Unit)
หากเปรียบเทียบระบบไฟฟ้าเป็นร่างกายสายเมนไฟฟ้าก็เปรียบเสมือน “เส้นเลือดใหญ่” ที่นำส่งพลังงานหล่อเลี้ยงไปยังทุกส่วนของอาคาร หากเส้นเลือดใหญ่นี้มีขนาดเล็กเกินไป ชำรุด หรือไม่ได้ มาตรฐาน ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการจ่ายไฟทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟตก ไฟกระชาก หรือร้ายแรงที่สุดคือการเกิดเพลิงไหม้ ดังนั้น การเลือกใช้สายเมนไฟฟ้าที่ถูกต้องทั้งชนิดและขนาด จึงเป็นปราการด่านแรกของ ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน
ความสำคัญของสายเมนไฟฟ้าไม่ได้มีเพียงการนำไฟฟ้า แต่ยังต้องสามารถทนต่อกระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit Current) ที่อาจเกิดขึ้นในระบบได้โดยไม่เสียหาย จนกว่าอุปกรณ์ป้องกัน (Main Circuit Breaker) จะทำงาน การเลือกใช้สายที่ได้ มาตรฐาน มอก. จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้
คุณสมบัติสำคัญของสายเมนไฟฟ้าที่ดี
การเลือกสายเมนไฟฟ้าไม่สามารถดูเพียงราคาหรือขนาดเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาคุณสมบัติทางวิศวกรรมไฟฟ้าที่ซับซ้อน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและ ความปลอดภัย ตลอดอายุการใช้งาน โดยสายเมนที่ดีต้องมีคุณสมบัติหลักดังนี้
ตัวนำไฟฟ้า (Conductor) คุณภาพสูง
ในงานติดตั้งสำหรับอาคารและบ้านพักอาศัยสายเมนไฟฟ้าที่ได้ มาตรฐาน จะใช้ ทองแดง (Copper) บริสุทธิ์ (ไม่ต่ำกว่า 99.9%) เป็นตัวนำ เนื่องจากทองแดงมีค่าความต้านทานไฟฟ้าต่ำมาก ทำให้สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้ดี เกิดการสูญเสียในรูปของความร้อนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับอลูมิเนียมในขนาดเดียวกัน แม้อลูมิเนียมจะมีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่า จึงมักใช้ในระบบสายส่งแรงสูง (Overhead lines) ของการไฟฟ้า แต่สำหรับสายเมนไฟฟ้าเข้าอาคาร ทองแดงคือคำตอบที่ดีที่สุด
ฉนวน (Insulation) ที่ทนทานและเหมาะสม
ฉนวนคือเกราะป้องกันตัวนำไฟฟ้าไม่ให้สัมผัสกันหรือสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งอาจก่อให้เกิดการลัดวงจร ฉนวนของสายเมนไฟฟ้าที่ดีต้องมีคุณสมบัติเป็นฉนวนทางไฟฟ้าสูง (High Dielectric Strength) เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล และต้องทนทานต่อปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันในการติดตั้ง
- ทนต่อแรงดันไฟฟ้า: ต้องทนแรงดันไฟฟ้าใช้งานปกติ (เช่น 230V หรือ 400V) และแรงดันไฟฟ้ากระชาก (Surge) ได้
- ทนต่ออุณหภูมิ: ต้องทนความร้อนที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน (Joule Heating) และอุณหภูมิแวดล้อมได้ โดยไม่เสื่อมสภาพ เปราะ แตก หรือละลาย
- ทนต่อสภาพแวดล้อม: หากติดตั้งภายนอก ต้องทนต่อแสงแดด (UV), ความชื้น, และการกัดกร่อน หากฝังดิน ต้องทนแรงกดทับและความชื้นใต้ดินได้
ความสามารถในการทนกระแสไฟฟ้า (Ampacity)
นี่คือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด สายเมนไฟฟ้าต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะ “ทนกระแสไฟฟ้า” สูงสุดที่ระบบต้องการใช้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกิดความร้อนสะสมสูงเกินพิกัดที่ฉนวนจะทนได้ การเลือกขนาดสายที่เล็กเกินไป (Undersized) คือสาเหตุหลักของอัคคีภัย เนื่องจากสายจะร้อนจัดจนฉนวนละลายและเกิดการลัดวงจร
การรับรองมาตรฐาน (Standard Certification)
สายเมนไฟฟ้าที่ปลอดภัย ต้องผ่านการทดสอบและได้รับการรับรอง มาตรฐาน จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หรือที่เรียกว่า มาตรฐาน มอก. (TIS) เช่น มอก.11-2559 หรือมาตรฐานสากล เช่น IEC 60502-1 การมีเครื่องหมาย มอก. เป็นการการันตีว่าสายไฟเส้นนั้นผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีขนาดตัวนำและฉนวนถูกต้องตามข้อกำหนด และผ่านการทดสอบ ความปลอดภัย ที่เข้มงวด
รู้จักชนิดของสายเมนไฟฟ้า (Types of Main Electrical Cables)
ในตลาดมีสายไฟฟ้าหลายประเภท แต่ไม่ใช่ทุกชนิดที่เหมาะกับการเป็นสายเมนไฟฟ้าการเลือกใช้ให้ถูกประเภทการติดตั้งถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยสายเมนที่นิยมใช้ในปัจจุบัน (สำหรับระบบแรงดันต่ำ) มีดังนี้
สาย THW

- ชื่อเต็ม: 750V PVC Insulated Cable, single core (สายไฟฟ้าแกนเดี่ยว หุ้มฉนวน PVC แรงดัน 750 โวลต์)
- ฉนวน/โครงสร้าง: เป็นสายแกนเดี่ยว ตัวนำทองแดง หุ้มฉนวน PVC (Polyvinyl Chloride) ชั้นเดียว พิกัดอุณหภูมิ 70°C มักใช้สีดำสำหรับสายเฟส (L) และสีฟ้าสำหรับสายนิวทรัล (N)
- จุดเด่น: ราคาประหยัด เป็นที่นิยมใช้ในอดีต หาซื้อง่าย
- การใช้งาน: ถูกออกแบบมาสำหรับ “เดินในอากาศ” โดยต้อง “ร้อยในท่อร้อยสายไฟ” (Conduit) เท่านั้น เช่น ท่อ PVC สีเหลือง (สำหรับภายใน) หรือท่อโลหะ (EMT, IMC) ห้ามใช้ฝังดินโดยตรง หรือร้อยท่อฝังดินเด็ดขาด เพราะฉนวนชั้นเดียวไม่สามารถทนความชื้นและแรงกดทับได้
- มาตรฐานและความปลอดภัย: การติดตั้งต้องเป็นไปตาม มาตรฐาน วสท. (EIT Standard) โดยต้องเดินในท่อที่ปิดมิดชิดเพื่อป้องกันความเสียหายทางกายภาพต่อฉนวน หากเป็นระบบ 1 เฟส 2 สาย (บ้านทั่วไป) ต้องเดิน 2 เส้น (L, N) ควบคู่กันไป
สาย NYY, NYY-G

- ชื่อเต็ม: 750V PVC Insulated and Sheathed Cable (สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนและเปลือก PVC แรงดัน 750 โวลต์)
- ฉนวน/โครงสร้าง: เป็นสายที่มีโครงสร้างซับซ้อนกว่า THW ประกอบด้วยตัวนำทองแดง หุ้มฉนวน PVC (ทำหน้าที่เป็นฉนวนไฟฟ้า) และมี “เปลือกนอก” (Outer Sheath) เป็น PVC อีกชั้นหนึ่ง (มักเป็นสีดำ) ทำหน้าที่ป้องกันความเสียหายทางกายภาพ ความชื้น และสารเคมี มีทั้งแบบแกนเดี่ยว (NYY 1/C) และหลายแกน (NYY-G ที่มีสายดินรวมอยู่ด้วย) พิกัดอุณหภูมิ 70°C
- จุดเด่น: ทนทานสูง ทนต่อสภาพอากาศ ความชื้น แรงกระแทก และการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม
- การใช้งาน: เป็นสายเมนไฟฟ้าที่อเนกประสงค์ที่สุด สามารถเดินร้อยท่อในอากาศ, เดินในราง Cable Tray, วางบนราง Ladder, และที่สำคัญคือ “สามารถร้อยท่อฝังดิน หรือ ฝังดินโดยตรงได้” (Direct Burial) ตาม มาตรฐาน การติดตั้ง
- มาตรฐานและความปลอดภัย: เป็นตัวเลือกที่ ปลอดภัย สูงสำหรับการเดินสายเมนไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือการเดินสายจากเสาไฟฟ้าเข้าสู่ตัวบ้านที่ต้องมีการฝังดิน
สาย CV หรือ XLPE

- ชื่อเต็ม: 0.6/1 kV XLPE Insulated, PVC Sheathed Cable (สายไฟฟ้าหุ้มฉนวน XLPE เปลือก PVC แรงดัน 0.6/1 กิโลโวลต์)
- ฉนวน/โครงสร้าง: นี่คือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดสำหรับสายเมนไฟฟ้าแรงดันต่ำ ตัวนำเป็นทองแดง หุ้มฉนวนภายในด้วย XLPE (Cross-linked Polyethylene) และมีเปลือกนอกเป็น PVC (คล้าย NYY)
- จุดเด่น: จุดแข็งที่หาตัวจับยากของ XLPE คือ “ทนความร้อนได้สูงถึง 90°C” (ในขณะที่ PVC ทนได้ 70°C) คุณสมบัตินี้ทำให้สาย CV สามารถ “ทนกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่า” สายเมนไฟฟ้าชนิดอื่นที่ขนาดตัวนำ (sq.mm.) เท่ากัน นอกจากนี้ยังทนต่อแรงกระแทกและการเสียดสีได้ดีกว่า
- การใช้งาน: เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง (Top choice) สำหรับงานที่ต้องการ ความปลอดภัย และ มาตรฐาน สูงสุดในปัจจุบัน เหมาะสำหรับเป็นสายเมนไฟฟ้าหลักของอาคาร, โรงงาน, หรือบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ที่ใช้ไฟมาก สามารถติดตั้งได้ทุกรูปแบบ ทั้งเดินในอากาศ, ร้อยท่อ, และฝังดินโดยตรง
- มาตรฐานและความปลอดภัย: ถือเป็น มาตรฐาน ใหม่ที่แนะนำสำหรับระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ โดยเฉพาะอาคารที่ต้องการเสถียรภาพทางไฟฟ้าสูง และรองรับโหลดหนัก เช่น สถานีชาร์จรถ EV
สาย VCT

- ชื่อเต็ม: Flexible Cable, PVC Insulated and Sheathed
- ฉนวน/โครงสร้าง: เป็นสายหลายแกน (Multi-core) ที่มีฉนวน PVC และเปลือก PVC คล้าย NYY แต่มีข้อแตกต่างสำคัญคือ “ตัวนำเป็นทองแดงเส้นฝอย” (Stranded)
- จุดเด่น: อ่อนตัวสูง ดัดโค้งงอได้ง่ายมาก เหมาะกับการเคลื่อนย้าย
- การใช้งาน: วัตถุประสงค์หลักของสาย VCT คือใช้เป็นสายไฟสำหรับอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่เคลื่อนที่ได้ (Flexible cord) อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณสมบัติการทนทาน (มีเปลือก 2 ชั้น) และการติดตั้งที่ง่ายในที่แคบ จึงมีการนำมาประยุกต์ใช้เป็น “สายเมนย่อย” หรือสายเมนไฟฟ้าในบางพื้นที่ เช่น เดินในราง Wireway ภายในอาคาร แต่ไม่เหมาะกับการฝังดินโดยตรง และมีความสามารถในการทนกระแสต่ำกว่าสายแกนเดี่ยวหรือสาย CV ที่ขนาดเท่ากันเล็กน้อย
- มาตรฐานและความปลอดภัย: ควรเลือกใช้ให้ถูกประเภทงาน หากใช้เป็นสายเมน ต้องมั่นใจว่าขนาดเพียงพอและติดตั้งในช่องเดินสายที่เหมาะสม
เปรียบเทียบสายเมนไฟฟ้าแต่ละชนิด
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่นของสายเมนไฟฟ้าแต่ละชนิดได้ดังนี้
| ชนิดสายไฟ | วัสดุฉนวน | อุณหภูมิสูงสุด | การติดตั้งที่เหมาะสม | จุดเด่น |
| THW | PVC (ชั้นเดียว) | 70°C | ร้อยท่อในอากาศ (ห้ามฝังดิน) | ราคาประหยัด |
| NYY | PVC (2 ชั้น) | 70°C | ร้อยท่อฝังดินโดยตรง | ทนทานสูงกันความชื้น |
| CV (XLPE) | XLPE (เปลือก PVC) | 90°C | ร้อยท่อฝังดินโดยตรง | ทนความร้อนสูงทนกระแสได้มาก |
| VCT | PVC (หลายแกนฝอย) | 70°C | เดินในรางร้อยท่อ (ไม่ฝังดิน) | อ่อนตัวสูงติดตั้งในที่แคบง่าย |
วิธีการเลือกสายเมนไฟฟ้าให้ถูกต้องและปลอดภัย
เมื่อรู้จักชนิดของสายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ “เลือกขนาด” ของสายเมนไฟฟ้าซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยการคำนวณทางวิศวกรรม แต่สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป มีหลักการพิจารณาเบื้องต้น ดังนี้
1. เลือกขนาดสายเมนตามขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า
วิธีที่ง่ายและเป็น มาตรฐาน ที่สุด คือการเลือกขนาดสายเมนไฟฟ้าให้สอดคล้องกับขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าที่ขอจากการไฟฟ้าฯ เพราะมิเตอร์คือตัวกำหนดปริมาณกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่บ้านคุณจะใช้ได้สายเมนไฟฟ้าจึงต้องรองรับกระแสไฟฟ้านั้นได้อย่าง ปลอดภัย
ตารางแนะนำขนาดสายเมนไฟฟ้า (ทองแดง) เทียบกับขนาดมิเตอร์ (ระบบ 1 เฟส 220V)
| ขนาดมิเตอร์ (แอมป์) | ขนาดสายเมน (ตร.มม.) (THW/NYY/VCT @ 70°C) | ขนาดสายเมน (ตร.มม.) (CV @ 90°C) |
| 5(15)A | 10 sq.mm. | 10 sq.mm. |
| 15(45)A | 25 sq.mm. | 16 sq.mm. |
| 30(100)A | 50 sq.mm. | 35 sq.mm. |
| 50(150)A | 70 sq.mm. | 50 sq.mm. |
ข้อสังเกต: จะเห็นได้ว่าหากเลือกใช้สาย CV (XLPE) ที่ทนความร้อนได้ 90°C จะสามารถใช้ขนาดสายไฟที่เล็กกว่า เมื่อเทียบกับสาย PVC (70°C) ที่ขนาดมิเตอร์เท่ากัน (เช่น 15(45)A ใช้ NYY 25 sq.mm. แต่ใช้ CV เพียง 16 sq.mm.) นี่คือข้อได้เปรียบของสาย CV ที่ช่วยประหยัดพื้นที่และค่าท่อร้อยสายได้
หมายเหตุ: การเลือกใช้สาย 16 sq.mm. สำหรับมิเตอร์ 15(45)A ควรใช้สาย CV (XLPE) เท่านั้น หากใช้ NYY หรือ THW ต้องใช้ 25 sq.mm. เพื่อ ความปลอดภัย
2. การคำนวณโหลด (Load Calculation)
สำหรับอาคารพาณิชย์ โรงงาน หรือบ้านขนาดใหญ่ที่มีการใช้ไฟสูง (เช่น มีเครื่องปรับอากาศหลายตัว, เครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้า, หรือสถานีชาร์จ EV) การเลือกสายเมนตามขนาดมิเตอร์อาจไม่เพียงพอ
จำเป็นต้องมีการ “คำนวณโหลด” (Load Calculation) โดยวิศวกรไฟฟ้า ซึ่งจะรวมการใช้พลังงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้นในอาคาร (คิดเป็น วัตต์ หรือ VA) เพื่อหาค่ากระแสไฟฟ้ารวมสูงสุดที่ต้องการใช้งานจริง แล้วจึงเลือกขนาดสายเมนไฟฟ้าที่สามารถรองรับโหลดนั้นได้ตาม มาตรฐาน วสท. เพื่อป้องกันปัญหาการใช้ไฟเกินพิกัดสาย (Overload)
3. ระยะทางและการติดตั้ง (Voltage Drop)
ปัจจัยสุดท้ายที่มักถูกลืมคือ “ระยะทาง” จากมิเตอร์ไฟฟ้ามายังตู้ไฟหลัก ยิ่งสายเมนไฟฟ้ามีความยาวมากเท่าใด ค่าความต้านทานในสายก็จะยิ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เกิด “แรงดันไฟฟ้าตก” (Voltage Drop) ปลายทาง
หากแรงดันตกมากเกินไป (ตาม มาตรฐาน วสท. ไม่ควรเกิน 3-5%) จะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ (เช่น มอเตอร์ร้อน, หลอดไฟหรี่) และอาจเสียหายได้
วิธีแก้: หากระยะทางเดินสายเมนไฟฟ้าไกลมาก (เช่น เกิน 30-50 เมตร) จำเป็นต้อง “เพิ่มขนาดสายไฟ” (Upsize) ให้ใหญ่กว่าขนาดขั้นต่ำตามตารางมิเตอร์ เพื่อชดเชยค่าแรงดันตกที่เกิดขึ้น และรักษา ความปลอดภัย ของระบบไว้
มาตรฐานการเดินสายเมนไฟฟ้า
การติดตั้งสายเมนไฟฟ้าไม่ใช่แค่การลากสายจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎและ มาตรฐาน ที่เข้มงวด เพื่อ ความปลอดภัย และป้องกันความเสียหาย
- มาตรฐานการไฟฟ้าฯ (MEA/PEA): การไฟฟ้าฯ จะมีข้อกำหนดเฉพาะสำหรับสายส่วนที่เชื่อมต่อกับมิเตอร์ (Service Entrance)
- มาตรฐาน วสท. (EIT Standard): เป็น มาตรฐาน หลักที่ช่างไฟฟ้าและวิศวกรใช้ในการติดตั้งภายในอาคาร กำหนดทุกอย่างตั้งแต่ชนิดท่อร้อยสาย, ความลึกในการฝังดิน (เช่น สาย NYY/CV ฝังดินโดยตรงต้องลึกไม่น้อยกว่า 0.6 เมตร และมีทรายหยาบรองพื้น/กลบ), วิธีการยึดจับสาย (Clamping) ไปจนถึงการต่อสายดิน (Grounding)
- การป้องกันสาย: สายเมนไฟฟ้าต้องได้รับการป้องกันทางกายภาพเสมอ เช่น ร้อยในท่อโลหะ, ท่อ HDPE (สำหรับฝังดิน), หรือท่อ PVC สีเหลือง (สำหรับภายใน) เพื่อป้องกันการถูกกระแทกหรือสัตว์กัดแทะ
ข้อควรระวังในการเลือกและติดตั้งสายเมนไฟฟ้า
จากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมสายไฟฟ้า ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสายเมนไฟฟ้าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง ข้อควรระวังสูงสุดมีดังนี้:
- การเลือกสายเมนที่เล็กเกินไป (Undersized): นี่คือข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุด การพยายามประหยัดค่าสายไฟโดยเลือกขนาดเล็กกว่า มาตรฐาน หรือเล็กกว่าโหลดที่ใช้จริง จะทำให้สายไฟทำงานหนักเกินพิกัด เกิดความร้อนสะสมสูง ฉนวนจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว กรอบแตก และนำไปสู่การลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของอัคคีภัย
- การใช้สายไฟที่ไม่มีมาตรฐาน มอก.: สายไฟราคาถูกที่ไม่ได้ มาตรฐาน มอก. มักใช้วัสดุตัวนำที่ไม่บริสุทธิ์ (มีความต้านทานสูง) หรือมีขนาดหน้าตัดไม่เต็ม (เช่น ระบุ 16 sq.mm. แต่วัดจริงได้ 14 sq.mm.) และใช้ฉนวนคุณภาพต่ำ สายเหล่านี้คือ “ระเบิดเวลา” ที่รอวันลัดวงจร
- การติดตั้งผิดประเภท: เช่น การนำสาย THW (ที่ออกแบบให้ใช้ในท่อในอาคาร) ไปร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรง ความชื้นจะซึมผ่านฉนวน PVC ชั้นเดียว ทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพและเกิดไฟฟ้ารั่วหรือลัดวงจรในที่สุด ต้องใช้สายที่มีเปลือกนอกทนความชื้น เช่น NYY หรือ CV เท่านั้น
- การติดตั้งโดยผู้ไม่ชำนาญ: การติดตั้งสายเมนไฟฟ้าเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง ทั้งการคำนวณ การเลือกใช้อุปกรณ์ และเทคนิคการติดตั้งที่ถูกต้องตาม มาตรฐาน การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง เช่น การขันจุดต่อสายไม่แน่น อาจทำให้เกิดความร้อนสูง (High Resistance Joint) และลุกไหม้ได้ จึงควรติดตั้งโดยช่างไฟฟ้าผู้ชำนาญการและมีใบอนุญาตเท่านั้น เพื่อ ความปลอดภัย สูงสุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสายเมนไฟฟ้า
สายเมนไฟฟ้ามีกี่แบบ?
แบบที่นิยมใช้เป็นสายเมนไฟฟ้าหลักๆ มี 3 ชนิด คือ
- THW: ราคาประหยัด ต้องเดินร้อยท่อในอากาศ ห้ามฝังดิน
- NYY: ทนทาน มีเปลือก 2 ชั้น สามารถฝังดินโดยตรงได้
- CV (XLPE): ดีที่สุด ทนความร้อนสูง (90°C) ทำให้ทนกระแสได้มากในขนาดที่เท่ากัน สามารถฝังดินได้ และเป็น มาตรฐาน ที่แนะนำในปัจจุบัน
เลือกมิเตอร์กับสายเมนยังไง?
เลือกขนาดสายเมนให้สัมพันธ์กับมิเตอร์ โดยยึดหลัก ความปลอดภัย ตัวอย่างยอดนิยมสำหรับบ้าน 1 เฟส คือ
- มิเตอร์ 5(15)A: ใช้สายเมนทองแดง (THW/NYY) ขนาด 10 sq.mm.
- มิเตอร์ 15(45)A: ใช้สายเมนทองแดง (NYY/THW) ขนาด 25 sq.mm. หรือหากใช้สาย CV (XLPE) สามารถใช้ขนาด 16 sq.mm.
เดินสายเมนเข้าบ้านใช้สายอะไรดีที่สุด?
หากต้องการ มาตรฐาน และ ความปลอดภัย สูงสุดในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้ สาย CV (XLPE) เนื่องจากทนความร้อนได้สูงถึง 90°C ทำให้รองรับกระแสไฟได้มาก มีความทนทานสูง และรองรับการใช้งานหนักในอนาคต (เช่น เครื่องชาร์จ EV) ได้ดีกว่า แต่หากต้องการตัวเลือกที่ มาตรฐาน และทนทานสำหรับการฝังดิน สาย NYY ก็เป็นตัวเลือกที่ดีและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป
สายเมนไฟฟ้าอลูมิเนียมกับทองแดง ต่างกันอย่างไร?
ทองแดงนำไฟฟ้าได้ดีกว่าอลูมิเนียมในขนาดพื้นที่หน้าตัดที่เท่ากัน ทำให้สายทองแดงมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบที่พิกัดกระแสเดียวกัน ปัจจุบัน มาตรฐาน การติดตั้งภายในอาคารและบ้านพักอาศัย บังคับให้ใช้สายเมนไฟฟ้าเป็นทองแดงเพื่อ ความปลอดภัย ส่วนสายอลูมิเนียมมักใช้ในระบบสายส่งแรงสูงของการไฟฟ้าฯ (เสาไฟฟ้านอกบ้าน) เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่ามาก
ทำไมต้องเลือกสายเมนไฟฟ้าให้ได้มาตรฐาน?
เพราะสายเมนไฟฟ้าคือจุดชี้ขาด ความปลอดภัย ของระบบไฟฟ้าทั้งบ้าน การใช้สายที่ได้ มาตรฐาน มอก. เป็นการรับประกันว่าสายไฟมีคุณภาพตัวนำและฉนวนตามข้อกำหนด ทนกระแสไฟได้ตามสเปกจริง ช่วยป้องกันปัญหาไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุของอัคคีภัย และทำให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพในการใช้งานระยะยาว

สรุปบทความ
สายเมนไฟฟ้า คือหัวใจหลักและปราการด่านแรกของระบบไฟฟ้าในอาคาร เปรียบดั่งเส้นเลือดใหญ่ที่หากอุดตันหรือเสียหาย ย่อมส่งผลต่อทั้งระบบ การลงทุนเลือกสายเมนไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงสุดและติดตั้งตาม มาตรฐาน โดยผู้เชี่ยวชาญ อาจมีราคาสูงกว่าในตอนต้น แต่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อ ความปลอดภัย ของชีวิตและทรัพย์สินในระยะยาว
สำหรับผู้ประกอบการ, วิศวกร, หรือเจ้าของโครงการ ที่กำลังมองหาสายเมนไฟฟ้าและสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้ มาตรฐาน สากล Fuhrer (ฟูห์เรอร์) พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ด้วยประสบการณ์กว่า 3 ทศวรรษ (ตั้งแต่ปี 1989) และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เราคือผู้อยู่เบื้องหลังโครงการสำคัญมากมาย และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รวมถึงภาคเอกชนชั้นนำ เลือก Fuhrer เพื่อ ความปลอดภัย และ มาตรฐาน ที่คุณวางใจได้