ในชีวิตประจำวันและงานอุตสาหกรรม เราถูกล้อมรอบด้วยสายไฟฟ้ามากมาย ซึ่งมีชื่อสายไฟแต่ละชนิดและคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกใช้ผิดประเภทอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อทรัพย์สินหรืออันตรายถึงชีวิตได้ Fuhrer (ฟูห์เรอร์) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจมายาวนาน จะมาถอดรหัสชื่อสายไฟแต่ละชนิดที่พบบ่อย เพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด
รู้จักสายไฟให้ถูกต้อง ปลอดภัย เลือกใช้เป็น ไม่โดนหลอก
การเลือกใช้สายไฟไม่ใช่แค่การเลือก “สายอะไรก็ได้” ให้ไฟเดินผ่าน แต่เป็นรากฐานสำคัญของความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าทั้งหมด การเรียกชื่อสายไฟแต่ละชนิดให้ถูกต้อง ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิค แต่เป็นเรื่องของการสื่อสารที่แม่นยำระหว่างผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา และผู้ใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าสายไฟที่ถูกติดตั้งนั้นตรงตามมาตรฐานที่กำหนด
มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. (TIS) คือข้อบังคับที่กำหนดคุณสมบัติของสายไฟ ตั้งแต่ตัวนำ ฉนวน เปลือก ไปจนถึงการทนต่อแรงดันและอุณหภูมิ การเลือกสายไฟที่ถูกต้องตามมาตรฐาน มอก. และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการติดตั้ง (เช่น การเดินร้อยท่อ, การฝังดิน, หรือการเดินลอย) จะช่วยป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร อัคคีภัย หรืออายุการใช้งานที่สั้นกว่าที่ควร บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับชื่อย่อสายไฟต่างๆ เพื่อให้การเลือกซื้อและตรวจสอบงานติดตั้งเป็นไปอย่างมืออาชีพ
ความหมายของตัวอักษรบนสายไฟ (TIS 11-2553)
ชื่อสายไฟที่เราคุ้นเคยกัน เช่น THW, NYY, หรือ VCT ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นรหัสที่บอกคุณสมบัติสำคัญของสายไฟเส้นนั้นๆ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานสากลและมาตรฐานของประเทศไทย (เช่น TIS 11-2553 สำหรับสายไฟแรงดันต่ำ) การเข้าใจรหัสเหล่านี้เปรียบเสมือนการอ่าน “ป้ายข้อมูล” ของสายไฟได้ทันที
ความหมายของตัวอักษรในชื่อสายไฟ (อิงมาตรฐาน)
การทำความเข้าใจชื่อสายไฟแต่ละชนิดจะง่ายขึ้นมาก เมื่อเราถอดรหัสตัวอักษรที่เป็นส่วนประกอบของชื่อเหล่านั้นได้ ซึ่งแต่ละตัวมีความหมายเฉพาะเจาะจง ดังนี้
- T – Thermoplastic (เทอร์โมพลาสติก) หมายถึง ฉนวนที่ทำจากพลาสติก PVC
- H – Heat Resistant (ทนความร้อน) โดยทั่วไปหมายถึง 70°C หรือ 90°C
- W – Weather Resistant (ทนต่อสภาพอากาศ) แม้บางชนิดเช่น THW จะมี W แต่มาตรฐานก็ไม่อนุญาตให้ใช้ภายนอกอาคารโดยตรง
- N – Normen (นอร์เมน) หมายถึง สายไฟที่อ้างอิงมาตรฐาน VDE ของเยอรมัน
- Y – (Y) หมายถึง ฉนวนหรือเปลือกที่ทำจาก PVC (มักใช้ในมาตรฐาน VDE)
- V – Vinyl (ไวนิล) มีความหมายเช่นเดียวกับ PVC (มักใช้ในมาตรฐาน มอก. หรือ JIS)
- C – Conductor (ตัวนำ) หมายถึง ตัวนำไฟฟ้า
- T – Twisted (ตีเกลียว) หมายถึง การตีเกลียวของสายไฟหลายแกน
- G – Ground (กราวด์) หมายถึง สายไฟที่มีสายดินรวมอยู่ด้วย
ตัวอย่างเช่น สาย NYY สามารถถอดรหัสได้ว่า เป็นสายมาตรฐานเยอรมัน (N) ที่มีฉนวนภายในเป็น PVC (Y) และมีเปลือกนอกเป็น PVC (Y) เช่นกัน
เจาะลึกสายไฟแต่ละชนิด แบ่งตามระดับแรงดันไฟฟ้า
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของ ชื่อสายไฟแต่ละชนิด ได้ง่ายขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือการแบ่งประเภทตามระดับแรงดันไฟฟ้า (Voltage Rating) ซึ่งเป็นตัวกำหนดขอบเขตการใช้งานที่ชัดเจน โดยสามารถแบ่งได้ 3 ระดับหลักๆ ซึ่งมีการใช้งานและสเปกของวัสดุที่แตกต่างกันสิ้นเชิง
1. สายไฟแรงดันต่ำ (Low Voltage) (ที่ใช้บ่อยในบ้านและอาคาร)
นี่คือกลุ่มสายไฟที่พบเห็นและใช้งานบ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ในบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะกำหนดพิกัดแรงดันไฟฟ้าไว้ไม่เกิน 750V (ตามมาตรฐาน TIS 11-2553)
สาย THW (IEC 01)

สาย IEC 01 หรือที่เรียกกันติดปากในวงการช่างว่า สาย THW ถือเป็นสายไฟพื้นฐานที่สุดสำหรับงานติดตั้งภายในอาคาร เป็นสายแกนเดี่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับระบบ 1 เฟส และ 3 เฟส
- ความหมายชื่อ: (ตาม มอก. เดิม) T = Thermoplastic (PVC), H = Heat Resistant (70°C), W = Weather Resistant
- มาตรฐาน มอก.: TIS 11-2553 (มาตรฐานใหม่จะเรียกว่า 60227 IEC 01)
- แรงดัน: 450/750V
- อุณหภูมิ: 70°C
- แกน/สี: 1 แกน ตัวนำเป็นทองแดงแข็ง (Solid) หรือตีเกลียว (Stranded) ฉนวน PVC ชั้นเดียว มีหลายสีเพื่อระบุเฟสตามมาตรฐานใหม่ (ฟ้า=N, น้ำตาล=L1, ดำ=L2, เทา=L3, เขียวแถบเหลือง=G)
- การใช้งาน: เป็นสายที่ต้อง “ป้องกัน” ห้ามใช้เดินเปลือยเกาะผนัง (ตีกิ๊บ) หรือฝังดินโดยตรงเด็ดขาด! การใช้งานที่ถูกต้องคือต้องเดินร้อยในท่อร้อยสายไฟ (เช่น ท่อ PVC สีเหลือง, ท่อ EMT) หรือเดินในราง Wire-way / Cable Tray ที่ปิดมิดชิด เหมาะสำหรับเป็นสายเมนเข้าตู้คอนซูมเมอร์ หรือสายวงจรย่อยไปยังเต้ารับและสวิตช์ไฟ
สาย VAF / VAF-G (สายแบน)

สาย VAF หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สายตีกิ๊บ” หรือ “สายแบน” เป็นสายไฟที่ถูกออกแบบมาเพื่องานติดตั้งภายในอาคารที่พักอาศัยโดยเฉพาะ ด้วยรูปลักษณ์สีขาวแบนที่ทำให้เดินเกาะไปตามผนังได้สะดวก
- ความหมายชื่อ: V = Vinyl (PVC) A = (ไม่ระบุชัดเจน) F = Flexible (แม้ตัวนำจะเป็นทองแดงแข็งก็ตาม)
- มาตรฐาน มอก.: TIS 11-2559
- แรงดัน: 450/750V
- อุณหภูมิ: 70°C
- แกน/สี: 2 แกน หรือ 3 แกน (แบบ VAF-G ที่มีสายดิน) หุ้มด้วยฉนวน PVC และมีเปลือก PVC สีขาวหุ้มทับอีกชั้นหนึ่ง
- การใช้งาน: ใช้งานสำหรับวงจรไฟฟ้าทั่วไปภายในบ้าน “ห้าม” เดินร้อยท่อโดยเด็ดขาด เนื่องจากสายแบนไม่ได้ออกแบบมาให้ระบายความร้อนในท่อ และ “ห้าม” ฝังดินโดยตรง เพราะเปลือกชั้นเดียวไม่ทนทานพอ การใช้งานที่ถูกต้องคือใช้เดินเกาะผนังโดยใช้กิ๊บรัดสาย (ตีกิ๊บ) หรือเดินในรางเก็บสายไฟ (ราง PVC ขาว)
สาย NYY / NYY-G (สายกลมดำ)

เมื่อนึกถึงสายไฟที่ต้องการความทนทานสูงสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในโรงงานอุตสาหกรรม สาย NYY มักเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงและมีเปลือกหุ้มถึงสองชั้น ทำให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี
- ความหมายชื่อ: N = มาตรฐาน VDE, Y = ฉนวน PVC, Y = เปลือก PVC
- มาตรฐาน มอก.: TIS 11-2559
- แรงดัน: 450/750V
- อุณหภูมิ: 70°C
- แกน/สี: มีทั้งแบบ 1 แกน และหลายแกน (Multi-Core) ตั้งแต่ 2 ถึง 4 แกน และแบบมีสายดิน (-G) เปลือกนอกเป็น PVC สีดำ ซึ่งทนต่อแสงแดด (UV) ได้ดีกว่าสีขาว
- การใช้งาน: เป็นสายไฟอเนกประสงค์ที่ทนทานสูงมาก สามารถเดินร้อยท่อได้ทั้งในและนอกอาคาร เดินบนรางเคเบิล (Cable Tray) และที่สำคัญคือ “สามารถฝังดินได้โดยตรง” (โดยเฉพาะรุ่นที่มีสายดิน) จึงนิยมใช้เป็นสายเมนจากมิเตอร์ไฟเข้าสู่ตัวอาคาร หรืองานที่ต้องการความสมบุกสมบันสูง
สาย VCT / VCT-G (สายอ่อน)

สาย VCT มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างจากสามชนิดแรกอย่างชัดเจน คือตัวนำเป็น “ทองแดงฝอย” ละเอียด ทำให้สายมีความอ่อนตัวสูงมาก สามารถโค้งงอได้บ่อยครั้งโดยที่ตัวนำไม่ขาดง่าย
- ความหมายชื่อ: V = Vinyl (PVC), C = Conductor, T = Twisted (ตีเกลียว)
- มาตรฐาน มอก.: TIS 11-2559
- แรงดัน: 450/750V
- อุณหภูมิ: 70°C
- แกน/สี: มีตั้งแต่ 1 แกน ถึง 4 แกน และแบบมีสายดิน (-G) หุ้มฉนวน PVC และเปลือก PVC กลมสีดำ
- การใช้งาน: ถูกออกแบบมาสำหรับงานที่ต้องการการเคลื่อนที่ หรือจุดที่ต้องรับแรงสั่นสะเทือน เช่น ใช้ทำสายปลั๊กพ่วง (Power Extension) ที่ต้องการความทนทานสูง, ใช้ต่อเข้ากับมอเตอร์, ปั๊มน้ำ, หรือเครื่องจักรกลในโรงงาน ไม่นิยมใช้เดินในท่อร้อยสายแบบถาวรเนื่องจากมีราคาสูงกว่า สาย THW และการเข้าหัวสายฝอยต้องใช้หางปลาที่เหมาะสม
2. สายไฟแรงดันปานกลาง (Medium Voltage)
สายไฟกลุ่มนี้ทำหน้าที่ส่งกำลังไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าย่อยของการไฟฟ้าฯ ไปยังหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) ตามอาคารขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม หรือนิคมอุตสาหกรรม รับแรงดันไฟฟ้าในระดับ 1 kV (1,000V) ไปจนถึง 36 kV (36,000V)
สาย XLPE และสาย SAC

ในกลุ่มแรงดันปานกลาง วัสดุฉนวนจะเปลี่ยนจาก PVC ธรรมดา ไปเป็น XLPE (Cross-linked Polyethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ดีกว่า ทนความร้อนได้สูงกว่า (ปกติ 90°C) และทนแรงดันได้สูงกว่ามาก
- มาตรฐาน มอก.: เช่น TIS 2143 (สำหรับสาย MV ที่หุ้มฉนวน XLPE)
- แรงดัน: 1.8/3(3.6)kV, 3.6/6(7.2)kV, 6/10(12)kV, 12/20(24)kV, 18/30(36)kV
- อุณหภูมิ: 90°C
- การใช้งาน:
- สาย XLPE (หุ้มฉนวน): ใช้เดินใต้ดิน (Underground) จากแนวสายส่งของการไฟฟ้าฯ เข้าสู่ห้องหม้อแปลงของอาคาร หรือเดินบนรางเคเบิลในโรงงานขนาดใหญ่
- สาย SAC (Space Aerial Cable): เป็นสายหุ้มฉนวน XLPE ตีเกลียว ใช้สำหรับเดินพาดไปตามเสาไฟฟ้าในเขตชุมชน เพื่อลดปัญหาสัตว์สัมผัสสายไฟ และเพิ่มความปลอดภัย
3. สายไฟแรงดันสูง (High Voltage)
นี่คือสายไฟที่ทำหน้าที่ “ส่ง” (Transmission) พลังงานไฟฟ้าปริมาณมหาศาลข้ามระยะทางไกลๆ จากโรงไฟฟ้าไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูงหลักของประเทศ เราจะเห็นสายเหล่านี้บนเสาโครงเหล็กขนาดใหญ่ที่ทอดผ่านทุ่งนาหรือภูเขา
สายเปลือย เช่น AAC และ ACSR

สายไฟกลุ่มนี้เกือบทั้งหมดเป็น “สายเปลือย” (Bare Conductor) คือไม่มีฉนวนหุ้ม เพื่อให้สามารถระบายความร้อนสู่อากาศได้ดีที่สุด และมีน้ำหนักเบา
- มาตรฐาน มอก.: เช่น TIS 85 (AAC), (ACSR)
- แรงดัน: 69kV, 115kV, 230kV, และ 500kV
- การใช้งาน:
- AAC (All Aluminium Conductor): สายอลูมิเนียมล้วน ใช้ในระบบจำหน่าย (Distribution) ที่แรงดันไม่สูงมาก
- ACSR (Aluminium Conductor Steel Reinforced): สายอลูมิเนียมที่มีแกนกลางเป็นเหล็กกล้า รับแรงดึงได้สูงมาก จึงเหมาะสำหรับใช้ขึงระหว่างเสาแรงสูงที่อยู่ห่างกันไกลๆ (Long Span) ในระบบส่ง (Transmission) หลักของประเทศ
สรุปตารางเปรียบเทียบ ชื่อสายไฟแต่ละชนิดและการใช้งาน
| ชื่อสายไฟ (มอก.) | พิกัดแรงดัน | พิกัดอุณหภูมิ | ลักษณะเด่น | การติดตั้งที่เหมาะสม (ตัวอย่าง) |
| IEC 01 (THW) | 450/750V | 70°C | สายแข็งแกนเดี่ยวฉนวนชั้นเดียว | ต้องร้อยท่อ หรือเดินในราง Wire-way (ห้ามฝังดิน) |
| VAF / VAF-G | 300/500V | 70°C | สายแบน2-3 แกน | เดินตีกิ๊บเกาะผนัง (ห้ามร้อยท่อ, ห้ามฝังดิน) |
| NYY / NYY-G | 450/750V | 70°C | สายกลมดำเปลือก 2 ชั้นทนทาน | ร้อยท่อเดินบนรางเคเบิลฝังดินได้โดยตรง |
| VCT / VCT-G | 450/750V | 70°C | สายอ่อน (ฝอย)ทนแรงสั่นสะเทือน | ต่อเข้าเครื่องจักรปลั๊กพ่วงอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
| XLPE (MV) | 1kV – 36kV | 90°C | ฉนวน XLPEทนแรงดันสูง | เดินใต้ดิน หรือ บนรางเคเบิล (สายเมนโรงงาน) |
| ACSR (HV) | > 69kV | (ระบายสู่อากาศ) | สายเปลือยแกนเหล็กทนแรงดึงสูง | ขึงบนเสาไฟฟ้าแรงสูง (ระบบส่งไฟฟ้า) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
สายไฟ THW กับ VCT ต่างกันอย่างไร?
THW เป็นสายแข็ง (Solid หรือ Stranded) แกนเดียว มีฉนวนชั้นเดียว เหมาะสำหรับงานเดินสายถาวรที่ต้องร้อยในท่อร้อยสายไฟ ส่วน VCT เป็นสายอ่อน (ตัวนำเป็นทองแดงฝอย) มีทั้งฉนวนและเปลือกหุ้ม ทำให้อ่อนตัวได้ดี ทนแรงสั่นสะเทือน จึงเหมาะสำหรับทำสายปลั๊กพ่วง หรือต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ได้
สายไฟที่ใช้เดินนอกอาคารและฝังดินได้ ควรใช้ชนิดไหน?
แนะนำ สาย NYY หรือ NYY-G (แบบมีสายดิน) เนื่องจากมีโครงสร้างเปลือก PVC หุ้ม 2 ชั้น ทำให้ทนทานต่อสภาพอากาศ แสงแดด (UV) ความชื้น และแรงกระแทกทางกายภาพได้ดีกว่าสายชนิดอื่น จึงเป็นชื่อสายไฟแต่ละชนิดที่ถูกกำหนดมาสำหรับงานฝังดินโดยตรง
สีของสายไฟมีความสำคัญอย่างไร?
สำคัญมากในแง่ของความปลอดภัยและมาตรฐานการติดตั้ง สีของฉนวนใช้เพื่อบอกหน้าที่ของสายไฟนั้นๆ ตามมาตรฐาน มอก. ล่าสุด (เช่น สีฟ้า=สายกลาง/นิวทรัล N, สีเขียวแถบเหลือง=สายดิน G, สีน้ำตาล/ดำ/เทา=สายเฟส L1, L2, L3) เพื่อป้องกันการต่อวงจรผิดพลาด
เราจะดูมาตรฐาน มอก. บนสายไฟได้อย่างไร?
สามารถสังเกตได้จากเครื่องหมาย มอก. ที่พิมพ์อยู่บนเปลือกนอกของสายไฟตลอดทั้งเส้น โดยจะระบุ TIS 11-2553 (สำหรับสายไฟแรงดันต่ำส่วนใหญ่) พร้อมทั้งระบุชื่อสายไฟแต่ละชนิด (เช่น 60227 IEC 01 หรือ VCT), พิกัดแรงดัน, จำนวนแกน x ขนาดตัวนำ และชื่อผู้ผลิต (เช่น FUHRER)
สายไฟ VAF (สายแบน) สามารถเดินร้อยท่อได้หรือไม่?
ไม่ได้เด็ดขาด! มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าไม่อนุญาตให้เดินสาย VAF ในท่อร้อยสายไฟ เนื่องจากสาย VAF ถูกออกแบบมาให้ระบายความร้อนโดยการสัมผัสอากาศโดยตรง (เมื่อตีกิ๊บ) การนำไปร้อยท่อจะทำให้เกิดการสะสมความร้อนสูง และฉนวนอาจเสียหายจากการเสียดสีขณะดึงสาย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
สรุปบทความ
การทำความเข้าใจชื่อสายไฟแต่ละชนิด คือหัวใจสำคัญของความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดของระบบไฟฟ้า ตั้งแต่บ้านพักอาศัยไปจนถึงโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ สำหรับผู้ประกอบการ วิศวกร หรือผู้รับเหมา ที่กำลังมองหาสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐาน Fuhrer (เฟอเร่อ) พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของโครงการคุณ เราคือผู้ผลิตสายไฟฟ้าที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำมากว่า 3 ทศวรรษ ด้วยมาตรฐานสากล TIS และ ISO 9001 มั่นใจได้ในคุณภาพ บริการ และความปลอดภัยระดับสูงสุด