FUHRER WIRE AND CABLE

News & Articles

สายไฟ VCT คืออะไร

สายไฟ VCT,VCT-G คืออะไร รู้จักกับประเภทและการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัย

ในวงการอุตสาหกรรมและงานติดตั้งระบบไฟฟ้าสายไฟ VCT,VCT-G ถือเป็นหนึ่งในสายไฟฟ้าที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นด้านความทนทานและความยืดหยุ่นสูง อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้งาน สาย VCT,VCT-G ให้ถูกต้องตามประเภทและขนาดที่เหมาะสม ถือเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า วันนี้ Fuhrer ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับ สายไฟ VCT,VCT-G เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สายไฟ VCT,VCT-G คืออะไร?

สายไฟ VCT,VCT-G คือ สายไฟฟ้าแรงดันต่ำที่ถูกออกแบบมาเพื่องานอุตสาหกรรมและงานติดตั้งที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ มีโครงสร้างหลักประกอบด้วยตัวนำทองแดงฝอยซึ่งทำให้สายมีความอ่อนตัวสูง สามารถดัดโค้งงอได้ง่าย เหมาะกับการเคลื่อนย้ายบ่อยครั้ง หุ้มด้วยฉนวนและเปลือกนอกที่ทำจาก PVC (Polyvinyl Chloride) คุณภาพสูง ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทก การสั่นสะเทือน และสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จึงนิยมใช้ต่อเข้ากับเครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือทำเป็นสายพ่วงไฟฟ้าที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานสูง

โครงสร้างและส่วนประกอบสำคัญของสาย VCT,VCT-G

โครงสร้างของ สายไฟ VCT,VCT-G ประกอบด้วยส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้สายไฟมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด ดังนี้

ตัวนำไฟฟ้า (Conductor) 

ส่วนแกนกลางทำจากลวดทองแดงเส้นเล็กๆ จำนวนมากพันตีเกลียวรวมกัน (Stranded Copper Conductor) ทำให้มีคุณสมบัติเด่นด้านการนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม มีความอ่อนตัวสูง สามารถดัดโค้งงอได้โดยง่าย และทนทานต่อการขาดในเมื่อมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สาย VCT,VCT-G เหมาะกับงานที่ยืดหยุ่น

ฉนวน (Insulation) 

ทำหน้าที่หุ้มตัวนำทองแดงแต่ละแกน ผลิตจากวัสดุพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC) คุณภาพสูง เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วไหลระหว่างแกนสายไฟและป้องกันผู้ใช้งานจากการสัมผัสโดยตรง ฉนวนจะมีสีแตกต่างกันไปตามมาตรฐาน เพื่อใช้ในการระบุหน้าที่ของสายแต่ละเส้นในระบบไฟฟ้า ทำให้ติดตั้งและซ่อมบำรุงได้ง่าย

เปลือกนอก (Sheath) 

เป็นชั้นหุ้มสุดท้ายที่อยู่ด้านนอกสุด ทำจาก PVC เกรดพิเศษที่มีความหนาและเหนียวกว่าชั้นฉนวน ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสายไฟจากปัจจัยภายนอกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแรงกระแทก การขูดขีดเสียดสี ความชื้น น้ำมัน และแสงแดด ทำให้สาย VCT,VCT-G สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้อย่างยาวนาน

คุณสมบัติเด่นที่ทำให้สาย VCT,VCT-G เป็นที่นิยม

คุณสมบัติที่ทำให้สาย VCT,VCT-G เป็นตัวเลือกแรกๆ ในงานหลายประเภท มาจากข้อดีดังต่อไปนี้

  • ความอ่อนตัวสูง สามารถโค้งงอและเคลื่อนย้ายได้สะดวก ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องเดินสายในพื้นที่จำกัด หรือต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่
  • ความทนทานเป็นเลิศ เปลือกนอก PVC ที่หนาเป็นพิเศษ ช่วยให้สายไฟ VCT,VCT-G ทนทานต่อแรงกระแทก การเสียดสี และสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี
  • การติดตั้งที่หลากหลาย สามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินลอยในอากาศ, ร้อยท่อ, หรือวางบนรางเคเบิล
  • มีให้เลือกหลายขนาดและจำนวนแกน รองรับการใช้งานตั้งแต่ระบบไฟฟ้า 1 เฟส ไปจนถึง 3 เฟส ทำให้มีความยืดหยุ่นในการออกแบบระบบไฟฟ้า

มาตรฐาน มอก. ของสายไฟ VCT,VCT-G ที่ควรรู้

การเลือกสายไฟ VCT,VCT-G ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ต้องพิจารณาจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองว่าสายไฟนั้นผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว

ทำไมต้องเลือกสายไฟที่ได้มาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 101-2559

มาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 101-2559 คือมาตรฐานบังคับสำหรับสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 450/750 โวลต์ การเลือกใช้สายไฟ VCT,VCT-G ที่มีเครื่องหมายนี้รับรองจึงหมายถึง

  • ความปลอดภัยสูงสุด มั่นใจได้ว่าสายไฟมีคุณภาพของฉนวนและเปลือกที่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ตามที่ระบุ ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ารั่วหรือลัดวงจร
  • ขนาดตัวนำเต็มมาตรฐาน ตัวนำทองแดงมีขนาดหน้าตัดและค่าความต้านทานเป็นไปตามเกณฑ์ ทำให้สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป
  • ความน่าเชื่อถือ เป็นการการันตีว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการควบคุมคุณภาพจากโรงงานผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่ง Fuhrer ให้ความสำคัญกับกระบวนการนี้เป็นอย่างยิ่ง

ตารางทนกระแสของสาย VCT,VCT-G ตามมาตรฐาน

การเลือกขนาดของสาย VCT,VCT-G ให้สัมพันธ์กับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้งานเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันปัญหาสายไฟร้อนจัดจนอาจเกิดเพลิงไหม้ได้ ด้านล่างนี้คือตารางพิกัดทนกระแสของสายไฟ VCT,VCT-G ตามมาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 101-2559 (ติดตั้งในอากาศ)

จำนวนแกนขนาดสาย (ตร.มม.)พิกัดกระแสสูงสุด (แอมแปร์)
1-2113 
1-21.516 
1-22.525 
1-2430 
1-2639 
1-21051 
1-21673 
1-22597 
1-235140 
3-5111
3-51.514
3-52.521
3-5426
3-5634
3-51047
3-51663
3-52583
3-535102

หมายเหตุ: ตารางนี้เป็นค่าอ้างอิงเบื้องต้นสำหรับการติดตั้งในอากาศที่อุณหภูมิ 40°C การใช้งานจริงควรปรึกษาวิศวกรไฟฟ้าเพื่อคำนวณให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการติดตั้ง

ไฟ VCT,VCT-G มีกี่ประเภท? แตกต่างกันอย่างไร

สายไฟ VCT,VCT-G สามารถแบ่งประเภทตามจำนวนแกนและลักษณะการใช้งานได้หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ซึ่งการทำความเข้าใจในแต่ละประเภทจะช่วยให้เลือกใช้ สาย VCT,VCT-G ได้อย่างถูกต้อง

สาย VCT ประเภทแกนเดี่ยว (Single Core)

แม้จะไม่ใช่ประเภทที่พบเห็นได้บ่อยนัก แต่ สาย VCT แกนเดี่ยวก็มีการใช้งานในบางกรณีเฉพาะทางที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงสำหรับตัวนำเพียงเส้นเดียว และต้องการเปลือกนอกที่ทนทานเป็นพิเศษเพื่อการป้องกัน

สาย VCT ประเภทหลายแกน (Multi-Core)

เป็นประเภทที่นิยมใช้งานมากที่สุด มีตั้งแต่ 2, 3, และ 4 แกน เหมาะสำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส ที่ไม่มีการต่อสายดินเข้ากับอุปกรณ์โดยตรง สีของฉนวนภายในจะแตกต่างกันไปเพื่อระบุหน้าที่ของแต่ละเส้น เช่น สีฟ้า (Neutral), สีน้ำตาล (Line), สีดำ (Line), และสีเทา (Line)

สาย VCT-G ประเภทหลายแกนแบบมีสายดิน (VCT-G)

สาย VCT ประเภทนี้จะมีลักษณะเหมือนกับประเภทหลายแกนทุกประการ แต่จะเพิ่มสายดิน (Ground) เข้ามาอีกหนึ่งเส้น ซึ่งฉนวนจะเป็นสีเขียวแถบเหลือง สัญลักษณ์ “-G” หมายถึง Ground การมีสายดินช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน โดยจะนำกระแสไฟฟ้าที่อาจรั่วไหลลงสู่ดิน ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด มักใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักรที่มีโครงเป็นโลหะ

การใช้งานสายไฟ VCT,VCT-G เหมาะกับระบบไฟแบบไหน?

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ทำให้สายไฟ VCT,VCT-G สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้กว้างขวาง ทั้งในภาคอุตสาหกรรม, อาคาร, ไปจนถึงการใช้งานทั่วไป ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีรายละเอียดการติดตั้งที่แตกต่างกัน

งานติดตั้งถาวรและงานที่ต้องการความทนทาน

สาย VCT,VCT-G เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการสายไฟที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถเดินบนรางเคเบิล, ร้อยท่อ หรือยึดติดกับผนังเพื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องจักรที่ติดตั้งถาวร รวมถึงการเดินสายไฟในอาคารที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ

การใช้งานกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่

นี่คือจุดเด่นที่สุดของสายไฟ VCT,VCT-G ด้วยความอ่อนตัวสูง ทำให้เหมาะสำหรับใช้เป็นสายไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยๆ เช่น สว่านไฟฟ้า, ปั๊มน้ำ, เครื่องเชื่อม, และสายพ่วง (Extension Cord) ที่ต้องการความทนทานสูง สามารถทนต่อการลากถูได้ดี

ข้อควรระวังในการติดตั้งและใช้งานสาย VCT,VCT-G

เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและยืดอายุการใช้งานของสาย VCT,VCT-G ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบสภาพสายไฟเสมอ ก่อนใช้งาน โดยเฉพาะสายพ่วง ควรตรวจสอบสภาพเปลือกนอกว่ามีรอยฉีกขาดหรือแตกร้าวหรือไม่
  • เลือกขนาดให้เหมาะสม ต้องใช้สาย VCT ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะทนกระแสของอุปกรณ์ได้ เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินพิกัด
  • หลีกเลี่ยงการติดตั้งในบริเวณที่สัมผัสสารเคมีรุนแรง แม้เปลือก PVC จะทนทานต่อน้ำมันได้ดี แต่สารเคมีบางชนิดอาจทำให้เปลือกเสื่อมสภาพได้
 วิธีการเลือกขนาดสายไฟ VCT

วิธีการเลือกขนาดสายไฟ VCT,VCT-G ให้เหมาะสมและปลอดภัย

การเลือกขนาดของสายไฟ VCT,VCT-G เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การเลือกขนาดที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ความเสียหายต่ออุปกรณ์หรือเกิดอัคคีภัยได้ ดังนั้นควรพิจารณาปัจจัยหลัก 3 ประการต่อไปนี้

พิจารณาจากพิกัดแรงดันไฟฟ้า (Voltage)

สาย VCT,VCT-G ตามมาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 101-2559 จะมีพิกัดแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 450/750V

  • 450V คือค่าแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดระหว่างตัวนำกับดิน
  • 750V คือค่าแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดระหว่างตัวนำกับตัวนำ

ดังนั้นสายไฟ VCT,VCT-G จึงเหมาะสำหรับใช้งานกับระบบไฟฟ้า 1 เฟส (220-240V) และระบบ 3 เฟส (380-415V) ในประเทศไทย

พิจารณาจากพิกัดกระแสไฟฟ้า (Current)

ต้องคำนวณปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อุปกรณ์หรือเครื่องจักรนั้นๆ ใช้งาน (หน่วยเป็นแอมแปร์) แล้วเลือกขนาดสาย VCT,VCT-G ที่มีพิกัดการทนกระแสสูงกว่าค่าที่ใช้งานจริง โดยอ้างอิงจากตารางทนกระแสข้างต้น และควรเผื่อค่าความปลอดภัย (Safety Factor) ไว้ด้วย

จำนวนแกนของสายไฟ (Cores)

การเลือกจำนวนแกนขึ้นอยู่กับระบบไฟฟ้าที่ใช้งาน

  • 2 แกน (VCT 2C): สำหรับระบบ 1 เฟส ที่ไม่ต้องใช้สายดิน (Line, Neutral)
  • 3 แกน (VCT 3C): สำหรับระบบ 3 เฟส ที่ไม่ต้องใช้สายดิน (Line 1, Line2, Line 3)
  • 4 แกน (VCT 4C): สำหรับระบบ 3 เฟส ที่ไม่ต้องใช้สายดิน (Line 1, Line2, Line 3, Neutral)
  • 2 แกน (VCT-G 2C): สำหรับระบบ 1 เฟส ที่ต้องการความปลอดภัยสูง โดยมีสายดิน (Line, Neutral, Ground)
  • 3 แกน (VCT-G 3C): สำหรับระบบ 3 เฟส ที่ต้องการสายดิน (Line 1, Line 2, Line 3, Ground)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสายไฟ VCT

สาย VCT,VCT-G ร้อยท่อฝังดินได้ไหม?

สายไฟ VCT,VCT-G สามารถร้อยท่อฝังดินและฝังดินได้โดยตรงได้ ตามมาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 101-2559

สาย VCT,VCT-G ต่างจากสาย CV อย่างไร?

สาย VCT,VCT-G และสาย CV มีข้อแตกต่างที่สำคัญคือ:

  • โครงสร้างตัวนำ สาย VCT,VCT-G ใช้ทองแดงฝอย ทำให้มีความอ่อนตัวสูง ส่วนสาย CV (ส่วนใหญ่) ใช้ทองแดงตีเกลียวเส้นใหญ่ ทำให้สายแข็งและดัดโค้งงอได้ยากกว่า
  • ฉนวน สาย VCT,VCT-G ใช้ฉนวน PVC ส่วนสาย CV ใช้ฉนวน XLPE (Cross-linked Polyethylene) ซึ่งทนความร้อนได้สูงกว่า (90°C เทียบกับ 70°C ของ VCT)
  • การใช้งาน สาย VCT,VCT-G เน้นงานที่ต้องการความยืดหยุ่นและเคลื่อนที่ ส่วนสาย CV เหมาะสำหรับงานติดตั้งถาวรที่ต้องการความทนทานสูงและทนกระแสได้มาก เช่น สายเมนไฟฟ้าใต้ดิน

อายุการใช้งานของสาย VCT,VCT-G นานแค่ไหน?

อายุการใช้งานของสายไฟ VCT,VCT-G ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการติดตั้งและการใช้งาน หากติดตั้งอย่างถูกวิธี ไม่สัมผัสแดดจัดหรือสารเคมีรุนแรงโดยตรง และไม่ใช้งานเกินพิกัดกระแส โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานยาวนาน 15-20 ปีขึ้นไป

สาย VCT,VCT-G แบบอ่อนกับสายแข็งต่างกันอย่างไร

“แบบอ่อน” หมายถึงสายไฟ VCT ที่มีตัวนำเป็นทองแดงฝอย (Flexible Stranded Copper) ทำให้ดัดงอได้ง่าย เหมาะกับงานเคลื่อนที่ ส่วน “สายแข็ง” หมายถึงสายไฟที่มีตัวนำเป็นทองแดงเส้นเดี่ยว (Solid) หรือตีเกลียวเส้นใหญ่ (Stranded) เช่น สาย THW ซึ่งจะมีความแข็งแรง แต่ดัดโค้งงอได้ยากกว่า เหมาะสำหรับงานเดินสายในอาคารแบบติดตั้งถาวร

สรุปเกี่ยวกับสายไฟ VCT

สรุปบทความ

สายไฟ VCT,VCT-G คือสายไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ ด้วยคุณสมบัติเด่นทั้งความทนทานและความยืดหยุ่น การทำความเข้าใจในโครงสร้าง ประเภท มาตรฐาน และข้อควรระวังในการติดตั้ง จะช่วยให้สามารถเลือกใช้สาย VCT,VCT-G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด 

สำหรับผู้ประกอบการ วิศวกร หรือช่างไฟฟ้าที่กำลังมองหาสายไฟฟ้าคุณภาพสูง Fuhrer พร้อมให้บริการด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 3 ทศวรรษ เราคือผู้ผลิตที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐชั้นนำ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) รวมถึงภาคเอกชนและโครงการขนาดใหญ่มากมาย ท่านจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จากเรา