การเลือกใช้สายไฟฟ้าที่เหมาะสมกับงานคือหัวใจสำคัญของความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบทั้งหมด หนึ่งในชนิดของสายไฟที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบันคือ สาย XLPE ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติที่เหนือกว่าสายไฟแบบดั้งเดิมหลายประการ วันนี้ Fuhrer ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ได้รับความไว้วางใจในอุตสาหกรรมมากว่า 27 ปี จะพาไปทำความรู้จักกับ สาย XLPE ให้ลึกซึ้ง ตั้งแต่ความหมาย คุณสมบัติเด่น ไปจนถึงการเลือกใช้งานให้ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด
สาย XLPE คืออะไร
สาย XLPE คือสายไฟฟ้าที่ใช้ฉนวนซึ่งทำมาจากพอลีเอทิลีน (Polyethylene) ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า “Cross-linked” หรือ “Vulcanized” ทำให้โครงสร้างโมเลกุลของพอลีเอทิลีนเกิดการเชื่อมโยงกันเป็นร่างแห (3D Network) ผลลัพธ์ที่ได้คือฉนวนเปลี่ยนจาก Polyethtlene เป็น Cross-linked Polyethtlene ทำให้ฉนวนมีคุณสมบัติทางกายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความทนทานต่ออุณหภูมิและความแข็งแรงเชิงกล
ทำไมคนถึงเรียกปนกับสาย CV?
เป็นเรื่องปกติในวงการช่างและวิศวกรที่จะได้ยินคนเรียกสาย XLPE สลับกับ “สาย CV” ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนได้ง่าย ความจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้มีความหมายที่เกี่ยวข้องกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
- สาย CV เป็นชื่อเรียกตามมาตรฐานญี่ปุ่น (JIS) หมายถึงสายไฟฟ้าที่ใช้ ฉนวน XLPE และมี เปลือกนอกเป็น PVC (Polyvinyl Chloride) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในงานติดตั้งทั่วไป
- สาย XLPE ตามนิยามที่ถูกต้องกว่า จะหมายถึงสายไฟฟ้าที่ใช้ ฉนวน XLPE และมี เปลือกนอกเป็น PE (Polyethylene) ซึ่งมักใช้ในงานที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารสูงเป็นพิเศษ เช่น งานเดินสายใต้ดิน หรือในบริเวณที่มีความชื้นสูง
ดังนั้น แม้คนส่วนใหญ่จะเรียกเหมารวมว่าสาย CV แต่การทำความเข้าใจว่า “XLPE” คือชื่อของชนิดฉนวน จะช่วยให้สามารถเลือกชนิดของเปลือกนอก (Sheath) ให้เหมาะสมกับหน้างานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
คุณสมบัติและลักษณะเด่นของสาย XLPE ที่ช่างไฟควรรู้
การที่สาย XLPE ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโครงการขนาดใหญ่และงานที่ต้องการความเชื่อถือสูง มาจากคุณสมบัติเด่น 4 ประการที่แตกต่างจากสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนชนิดอื่นอย่างชัดเจน
ทนความร้อนสูงกว่าสายทั่วไป
จุดเด่นที่สุดของ ฉนวน XLPE คือความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิที่สูงกว่าฉนวน PVC อย่างมาก โดย สาย XLPE สามารถทนอุณหภูมิตัวนำได้สูงสุดถึง 90°C ในสภาวะใช้งานปกติ และทนอุณหภูมิขณะเกิดการลัดวงจรได้สูงถึง 250°C (ในระยะเวลาสั้นๆ) ซึ่งสูงกว่าสาย PVC ที่ทนได้เพียง 70°C และ 160°C ตามลำดับ คุณสมบัตินี้ทำให้ สาย XLPE สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าสาย PVC ที่มีขนาดตัวนำเท่ากัน จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบที่ต้องการประสิทธิภาพการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าสูงสุด
ความแข็งแรงเชิงกลและทนทานต่อสารเคมี
ด้วยโครงสร้างโมเลกุลแบบร่างแห ทำให้ฉนวน XLPE มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก การขูดขีด และการเสียดสีได้ดีกว่า PVC อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้นได้ดีเยี่ยม ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ลดความถี่และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว
คุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม
ฉนวน XLPE มีค่าความเป็นฉนวนทางไฟฟ้า (Dielectric Strength) ที่สูงมาก และมีค่าการสูญเสียในฉนวน (Dielectric Loss) ต่ำ ซึ่งหมายความว่ามันสามารถป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียรและปลอดภัยสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าแรงดันสูง
น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย
เมื่อเทียบกับสายไฟฟ้าประเภทอื่นที่มีพิกัดการทนกระแสเท่ากันสาย XLPE มักจะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า เนื่องจากคุณสมบัติการทนความร้อนที่สูงกว่า ทำให้สามารถใช้ตัวนำขนาดเล็กลงได้ ข้อได้เปรียบนี้ช่วยให้การขนส่งและการติดตั้งทำได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการเดินสายในที่แคบหรือบนรางเคเบิลที่มีพื้นที่จำกัด
ประเภทของสาย XLPE ที่นิยมใช้งาน
สาย XLPE สามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะของตัวนำ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการติดตั้งที่แตกต่างกัน และยังแบ่งตามพิกัดแรงดันไฟฟ้าตามมาตรฐานสากลอีกด้วย
สายแบบแข็ง (Solid Conductor)
เป็นสาย XLPE ที่มีตัวนำเป็นลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเดี่ยว มีลักษณะแข็ง ไม่สามารถดัดโค้งงอได้มากนัก เหมาะสำหรับงานติดตั้งแบบถาวร เช่น การเดินสายในท่อร้อยสายฝังดินหรือฝังในผนังคอนกรีต ที่ไม่ต้องการการเคลื่อนย้ายหรือดัดสายบ่อยครั้ง
สายแบบยืดหยุ่น (Flexible Conductor / Stranded Conductor)
เป็นสาย XLPE ที่มีตัวนำภายในประกอบด้วยลวดทองแดงหรืออะลูมิเนียมเส้นเล็กๆ จำนวนมากตีเกลียวรวมกัน ทำให้สายมีความอ่อนตัวและยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งงอได้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องเดินสายในพื้นที่โค้งงอ หรือติดตั้งในรางเคเบิล (Cable Tray/Ladder) และงานที่อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายในอนาคต
สาย XLPE เหมาะกับงานประเภทไหนบ้าง?
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นรอบด้าน ทำให้สาย XLPE เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานและความเชื่อถือได้สูง โดยมีตัวอย่างการใช้งานหลักดังนี้
งานเดินสายไฟฟ้าใต้ดิน (Underground Cable)
คุณสมบัติการทนความชื้น, ทนต่อแรงกดทับ และความแข็งแรงเชิงกลของสาย XLPE ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานร้อยท่อฝังดินหรือฝังดินโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงจากความเสียหายทางกายภาพและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานเดินสายในอาคารขนาดใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรม
ในอาคารสูง, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก ความสามารถในการนำกระแสสูงของสาย XLPE ช่วยให้สามารถรองรับโหลดไฟฟ้าหนักๆ ได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากปัญหาความร้อนสะสมในสายไฟซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอัคคีภัย
ระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Power Lines)
สำหรับโครงการระบบส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ หรือสถานีไฟฟ้าย่อย ความเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยมและค่าการสูญเสียทางไฟฟ้าที่ต่ำของสาย XLPE มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาเสถียรภาพของระบบและลดการสูญเสียพลังงานในระหว่างการส่งจ่ายไฟฟ้าในระยะทางไกล
เปรียบเทียบชัดๆ สาย XLPE ต่างจากสาย PVC อย่างไร?
เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างระหว่างฉนวน XLPE และฉนวน PVC ที่เป็นที่นิยมในงานทั่วไปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถสรุปเปรียบเทียบคุณสมบัติในด้านต่างๆ ได้ดังตารางต่อไปนี้
คุณสมบัติ | สาย XLPE | สาย PVC |
การทนความร้อน | สูงมาก (ทนอุณหภูมิตัวนำได้ 90°C) | ปานกลาง (ทนอุณหภูมิตัวนำได้ 70°C) |
ความทนทานเชิงกล | ดีเยี่ยม ทนต่อการขีดข่วนและแรงกระแทก | ดี ทนทานต่อการใช้งานทั่วไป |
อายุการใช้งาน | ยาวนานมาก (มากกว่า 20-30 ปี) | ยาวนาน (ประมาณ 15-20 ปี) |
ราคา | สูงกว่า | ประหยัดกว่า |
การนำกระแส | นำกระแสได้สูงกว่าในขนาดตัวนำเดียวกัน | นำกระแสได้ตามมาตรฐาน |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสาย XLPE
ฉนวน XLPE คืออะไร?
ฉนวน XLPE คือ ฉนวนที่ทำจากพอลีเอทิลีน (PE) ที่ผ่านกระบวนการ Cross-linking เพื่อเชื่อมโยงโครงสร้างโมเลกุลให้แข็งแรงขึ้น ทำให้มีคุณสมบัติทนความร้อน, ทนทานต่อสารเคมี และมีความแข็งแรงเชิงกลสูงกว่าฉนวนพลาสติกเทอร์โมพลาสติกทั่วไปอย่าง PVC อย่างมีนัยสำคัญ
สาย XLPE ทนกระแสได้เท่าไหร่?
ความสามารถในการทนกระแสของ สาย XLPE ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ ขนาดของตัวนำไฟฟ้า (พื้นที่หน้าตัด) และ ลักษณะการติดตั้ง (เช่น เดินในอากาศ, ในท่อร้อยสาย, หรือฝังดิน) ซึ่งมีผลต่อการระบายความร้อน โดยสามารถอ้างอิงพิกัดกระแสได้จากตารางมาตรฐานของผู้ผลิตหรือมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ยกตัวอย่างเช่น สาย XLPE ขนาด 50 ตร.มม. อาจทนกระแสได้สูงกว่า 200 แอมแปร์ เมื่อติดตั้งในอากาศ
สาย XLPE กับสาย CV ต่างกันอย่างไร?
สรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดคือ XLPE เป็น “ชื่อของชนิดฉนวน” ในขณะที่ CV เป็น “ชื่อเรียกของชนิดสายไฟ” ตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงสายที่มี ฉนวนเป็น XLPE และ เปลือกนอกเป็น PVC ดังนั้น สาย XLPE ทุกเส้นไม่ได้เป็นสาย CV เสมอไป เพราะอาจมีเปลือกนอกเป็นวัสดุชนิดอื่น เช่น PE ก็ได้
สรุปบทความ
สาย XLPE ถือเป็นเทคโนโลยีสายไฟฟ้าขั้นสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความทนทานในระยะยาว แม้จะมีราคาสูงกว่าสาย PVC แต่เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการนำกระแสที่สูงกว่าและอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับทุกโครงการ
สำหรับผู้ประกอบการ, วิศวกร, หรือผู้รับเหมาที่กำลังมองหาสาย XLPE และสายไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล Fuhrer Wire & Cable พร้อมเป็นผู้ช่วยและที่ปรึกษา เราคือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสายไฟฟ้าชั้นนำของไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำของประเทศมากมาย อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดสำหรับโครงการของคุณ