สายไฟ THW เป็นหนึ่งในสายไฟฟ้าพื้นฐานที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายที่สุด ทั้งในอาคารบ้านเรือนไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและมาตรฐานที่เชื่อถือได้ ทำให้เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ช่างไฟและวิศวกรนึกถึง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าของคุณจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด บทความนี้ Fuhrer จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของสาย THW ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ประเภทต่างๆ ตารางสายไฟ THW ไปจนถึงวิธีการเลือกและคำนวณเพื่อให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท
สายไฟ THW คืออะไร?
สายไฟ THW คือ สายไฟฟ้าตัวนำทองแดงแกนเดียว หุ้มด้วยฉนวน PVC (Polyvinyl Chloride) จัดเป็นสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage) ที่ใช้ในงานเดินสายทั่วไปภายในอาคาร สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้สูงสุด 750 โวลต์ และทนอุณหภูมิได้ 70 องศาเซลเซียส ชื่อ “THW” ไม่ได้เป็นเพียงชื่อเรียก แต่เป็นตัวย่อที่บ่งบอกถึงคุณสมบัติสำคัญของสายไฟชนิดนี้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจคุณสมบัติเบื้องต้นได้ทันที ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันในระดับสากล
โครงสร้างและส่วนประกอบของสายไฟ THW
โครงสร้างของสายไฟ THW ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพ เพื่อให้การนำไฟฟ้าเป็นไปอย่างดีเยี่ยมและมีความปลอดภัยสูง โดยมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญเพียง 2 ส่วนดังนี้
ตัวนำ (Conductor)
ทำจากทองแดงที่มีความบริสุทธิ์สูง ช่วยให้นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยมและลดการสูญเสียพลังงาน มีทั้งรูปแบบตัวนำทองแดงเส้นเดียว (Solid) สำหรับขนาดสายไฟ THW เล็กๆ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง และรูปแบบตัวนำตีเกลียว (Stranded) สำหรับสายขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน
ฉนวน (Insulation)
ผลิตจาก PVC (Polyvinyl Chloride) คุณภาพสูง มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม ทนทานต่อการขีดข่วน การเสียดสี และสามารถป้องกันความชื้นได้ดี ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากตัวนำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ฉนวนของสาย THW นี้เองที่ทำให้มันมีคุณสมบัติทนความร้อนและกันน้ำได้ตามมาตรฐาน
มาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 3-2553 ที่ต้องรู้เกี่ยวกับสาย THW
เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยสายไฟ THW ที่ผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศไทยจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. 11 เล่ม 3-2553 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดคุณสมบัติสำคัญต่างๆ ของสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพีวีซี แรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 750 โวลต์ โดยครอบคลุมตั้งแต่ชนิดของตัวนำ, ความหนาของฉนวน, ความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้า, และการทนต่ออุณหภูมิ การเลือกใช้สาย THW ที่มีเครื่องหมาย มอก. จึงเป็นการการันตีว่าสายไฟเส้นนั้นมีคุณภาพและปลอดภัยตามข้อกำหนด
ประเภทของสายไฟ THW
แม้จะเรียกรวมๆ ว่า สายไฟ THW แต่ในทางเทคนิคตามมาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 3-2553 สามารถแบ่งย่อยตามลักษณะของตัวนำทองแดงได้เป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีผลต่อความยืดหยุ่นและการนำไปใช้งานเล็กน้อย ดังนี้
THW (60227 IEC 01)
เป็น สาย THW ที่ใช้ตัวนำทองแดงแกนเดียว (Solid wire) ลักษณะจะเป็นลวดทองแดงเส้นแข็งเส้นเดียว มักพบใน ขนาดสายไฟ THW ตั้งแต่ 1.5 ตร.มม. ถึง 400 ตร.มม. เหมาะสำหรับงานเดินสายที่ถาวร ไม่มีการขยับหรือโค้งงอบ่อยๆ เช่น การเดินสายในท่อร้อยสายฝังผนัง
THW-f (60227 IEC 02)
เป็น สาย THW ที่ใช้ตัวนำทองแดงฝอยตีเกลียว หรือทองแดงตีเกลียว (Flexible or Stranded wire) ประกอบด้วยลวดทองแดงเส้นเล็กๆ จำนวนมากพันกันเป็นเกลียว พบได้ในทุกขนาด มีข้อดีคือมีความอ่อนตัวและยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า จึงเหมาะกับงานที่ต้องมีการโค้งงอของสายไฟ หรือการเดินสายในตู้ควบคุม (MDB) ที่ต้องการความสะดวกในการเชื่อมต่ออุปกรณ์
สำหรับขนาดสายไฟ THW-f มีพิกัดการทนกระแสสูงสุดโดยประมาณตามตารางดังนี้
ขนาดสาย ( ตร.มม. ) | ขนาดกระแส ( แอมแปร์ ) |
1.5 | 21 |
2.5 | 29 |
4 | 37 |
6 | 48 |
10 | 67 |
16 | 92 |
25 | 127 |
35 | 157 |
50 | 191 |
70 | 244 |
95 | 297 |
120 | 345 |
150 | 397 |
185 | 453 |
240 | 535 |
300 | 617 |
400 | 741 |
ขนาดสายไฟ THW และการทนกระแสไฟฟ้า
การเลือกขนาดสายไฟ THW ให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะสาย THW แต่ละขนาดมีความสามารถในการรองรับปริมาณกระแสไฟฟ้า (แอมป์) ได้ไม่เท่ากัน หากเลือกสายขนาดเล็กเกินไปสำหรับอุปกรณ์ที่กินไฟมาก อาจทำให้สายไฟร้อนจัด ฉนวนละลาย และนำไปสู่เหตุไฟฟ้าลัดวงจรหรือเพลิงไหม้ได้
ตารางสายไฟ THW ด้านล่างนี้ คือข้อมูลพิกัดการทนกระแสสูงสุดโดยประมาณ สำหรับการติดตั้งเดินสายในท่อร้อยสายในอากาศ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป
ขนาดสาย ( ตร.มม. ) | ขนาดกระแส ( แอมแปร์ ) |
1 | 13 |
1.5 | 16 |
2.5 | 25 |
4 | 30 |
6 | 39 |
10 | 51 |
16 | 73 |
25 | 97 |
35 | 140 |
วิธีคำนวณสาย THW ให้เหมาะกับกระแสไฟฟ้า
นอกจากการดูจากตารางสายไฟ THW แล้ว การคำนวณหากระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์ต่างๆ จะช่วยให้เลือกขนาดสายไฟ THW ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้สูตรง่ายๆ ดังนี้
สูตรคำนวณกระแสไฟฟ้า (I) I = P / V
โดยที่
- I = กระแสไฟฟ้า (หน่วยเป็น แอมป์ หรือ A)
- P = กำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้า (หน่วยเป็น วัตต์ หรือ W)
- V = แรงดันไฟฟ้า (หน่วยเป็น โวลต์ หรือ V) โดยทั่วไปในประเทศไทยคือ 220V
ตัวอย่างการคำนวณ
หากต้องการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้าขนาด 4,500 วัตต์ (W) กับระบบไฟบ้าน 220 โวลต์ (V) จะต้องใช้ สาย THW ขนาดเท่าไหร่?
- แทนค่าในสูตร I = 4500 / 220
- ผลลัพธ์ I ≈ 20.45 แอมป์
จากนั้นนำค่ากระแสที่คำนวณได้ (20.45A) ไปเทียบกับ ตารางสายไฟ THW จะพบว่า สายไฟ THW ขนาด 2.5 ตร.มม. (ทนกระแสได้ 25A) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับเครื่องทำน้ำร้อนนี้ เพราะสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าที่อุปกรณ์ต้องการใช้งาน
วิธีเลือกใช้สายไฟ THW ให้เหมาะสมและปลอดภัย
เพื่อให้การใช้งานสายไฟ THW เป็นไปอย่างถูกต้องและมีอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากการเลือกขนาดให้เหมาะสมกับปริมาณกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย
เลือกจาก “โหลด” หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้
ขั้นตอนแรกคือการสำรวจอุปกรณ์ไฟฟ้า (Load) ที่จะนำมาเชื่อมต่อกับ สาย THW นั้นๆ ว่ามีอัตราการกินไฟเท่าไหร่ โดยสามารถดูได้จากฉลากหรือคู่มือของอุปกรณ์ ซึ่งจะระบุเป็นวัตต์ (W) หรือแอมป์ (A) จากนั้นจึงนำข้อมูลมาคำนวณหรือเทียบกับตารางสายไฟ THW เพื่อหา ขนาดสายไฟ THW ที่เหมาะสม โดยต้องเลือกขนาดที่ทนกระแสได้ “สูงกว่า” กระแสที่อุปกรณ์ต้องการเสมอ เพื่อเป็นค่าความปลอดภัย (Safety Factor)
เลือกตาม “ลักษณะการติดตั้ง”
สายไฟ THW มีข้อกำหนดในการติดตั้งที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยสูงสุด การติดตั้งผิดวิธีอาจทำให้สายไฟชำรุดและเกิดอันตรายได้
วิธีที่ควรใช้
- เดินร้อยท่อ เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินสาย THW ไม่ว่าจะเป็นท่อ PVC (สีเหลือง/ขาว) หรือท่อโลหะ EMT/IMC สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบฝังในผนังคอนกรีตและแบบเดินลอยเกาะผนัง
- เดินในราง Wireway หรือ Cable Tray เหมาะสำหรับงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องเดินสายไฟจำนวนมาก
วิธีที่ห้ามใช้
- ห้ามฝังดินโดยตรง ฉนวน PVC ของสายไฟ THW ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อความชื้นและแรงกดทับใต้ดินโดยตรง หากต้องการเดินสายใต้ดิน ต้องร้อยท่อกันน้ำที่มีมาตรฐานเหมาะสมเท่านั้น
- ห้ามเดินตีกิ๊บเกาะผนัง การเดินสายโดยใช้กิ๊บยึดติดกับผนังโดยตรงเป็นวิธีที่ผิดและอันตราย เนื่องจากฉนวนชั้นเดียวอาจเสียหายจากการตอกหรือการกดทับ ทำให้เกิดไฟรั่วได้ง่าย
สีของสายไฟ THW บอกอะไร?
ตามมาตรฐาน มอก. ล่าสุด ได้มีการกำหนดสีของฉนวนสายไฟเพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งและซ่อมบำรุงอย่างปลอดภัย การรู้จักความหมายของแต่ละสีจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- น้ำตาล, ดำ, เทา ใช้เป็นสายเส้นไฟ (Line) ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่
- ฟ้า ใช้เป็นสายนิวทรัล (Neutral)
- เขียวแถบเหลือง ใช้เป็นสายดิน (Ground) เพื่อความปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสายไฟ THW
สาย THW กับ VAF ต่างกันอย่างไร?
สายไฟ THW เป็นสายแกนเดียวที่มีฉนวน PVC ชั้นเดียว เหมาะสำหรับงานที่ต้องเดินร้อยท่อ ส่วนสาย VAF (หรือสายขาว) จะมีลักษณะเป็นสายแบน มี 2-3 แกน และมีเปลือกหุ้มฉนวนอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เหมาะกับการเดินตีกิ๊บเกาะผนัง แต่ไม่เหมาะกับการเดินร้อยท่อเพราะระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่า สาย THW
สาย THW ใช้กับไฟ 3 เฟสได้หรือไม่?
ได้ สายไฟ THW สามารถใช้กับระบบไฟฟ้า 3 เฟส ได้เป็นอย่างดี โดยใช้สายสีน้ำตาล, ดำ, และเทา เป็นสายเฟส (L1, L2, L3) ตามลำดับ, สีฟ้าเป็นสายนิวทรัล (N) และสีเขียวแถบเหลืองเป็นสายดิน (G) ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ใช้กันในโรงงานและอาคารขนาดใหญ่
สายไฟ THW ขนาด 2.5 ทนไฟฟ้าได้กี่แอมป์
โดยทั่วไปสายไฟ THW สำหรับการติดตั้งในท่อร้อยสายในอากาศ สายไฟ THW ขนาด 2.5 ตร.มม. จะสามารถทนกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณ 20 แอมป์ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการติดตั้ง
สายไฟ THW 2.5 เหมาะกับอะไร
สายไฟ THW ขนาด 2.5 ตร.มม. เป็นขนาดที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับวงจรเต้ารับไฟฟ้าภายในบ้านและอาคาร สามารถใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายชนิด เช่น โทรทัศน์, พัดลม, คอมพิวเตอร์, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ ไปจนถึงเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กที่กินกระแสไม่เกินพิกัด
สรุปบทความ
สายไฟ THW คือสายไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่เป็นรากฐานสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน การทำความเข้าใจตั้งแต่โครงสร้าง, ประเภท, การอ่านค่าจาก ตารางสายไฟ THW, ไปจนถึงการเลือกขนาดสายไฟ THW และติดตั้งให้ถูกวิธี ล้วนเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด
สำหรับผู้รับเหมา วิศวกร หรือเจ้าของโครงการที่กำลังมองหา สาย THW คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล Fuhrer ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษและความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำมากมาย เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่มีคุณภาพ แต่ยังมาพร้อมกับบริการและความเชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อให้ทุกโครงการของคุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน